หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๕๖) - ๒๔๗๕ b.pdf/29

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๕

ตั้งแต่เจ้าพระยาบดินทรเดชามีใบบอกสนองพระราชโองการฉะบับที่กล่าวนี้เข้ามาแล้ว ก็พร้อมกับพระองค์ด้วงยกกองทัพไปรบญวนซึ่งมาตั้งปกครองเมืองเขมร รุกแดนลงไปได้โดยลำดับจนถึงเมืองอุดงฦๅไชย หนือเมืองพนมเพ็ญซึ่งญวนตั้งอยู่เป็นที่มั่น ระยะทางราว ๑๕๐๐ เส้น (เดี๋ยวนี้ใช้รถยนต์แล่นราว ๕๐ นาฑี) ด้วยพวกเขมรพากันมาเข้ากับพระองค์ด้วงเป็นอันมาก แต่กระนั้น ก็ไม่สามรถจะตีเอาเมืองพนมเพ็ญได้ ด้วยญวนมีกำลังมากกว่าไทยในทางน้ำ เพราะอาจเอาเรือรบเรือลำเลียงขึ้นมาจากเมืองไซ่ง่อนได้สะดวก ข้างฝ่ายไทยไม่มีเรือ ก็ได้เพียงคอยรับพุ่งกีดกันมิให้ญวนขึ้นบกไปห่างทางน้ำได้ แต่พวกกองทัพญวนที่แยกย้ายกันไปตั้งค่ายอยู่ตามเมืองดอนถูกล้อมจนอดอยากหนีกลับไปได้ก็มี ที่ต้องยอมออกมานบนอบต่อไทยก็หลายแห่ง พอเปลี่ยนรัชชกาลทางเมืองญวน ด้วยพระเจ้ามินมางสิ้นพระชนม์ พระเจ้าเทียวตรีได้รับรัชชทายาท เห็นว่า การที่จะแปลงเมืองเขมรให้เป็นหัวเมืองญวนไม่สำเร็จ ก็เปลี่ยนกลับไปใช้อุบายอย่างเก่า ให้ส่งพระองค์อิ่ม มหาอุปโยราช คืนมาครองเมืองเขมรอยู่ในป้องกันของญวน เช่นเดียวกับพระองค์ด้วงครองเมืองเขมรอยู่ในป้องกันของไทย แต่พระองค์อิ่มมาอยู่ที่เมืองพนมเพ็ญได้หน่อยหนึ่ง ก็ผะเอิญเกิดอหิวาตกะโรคขึ้นที่เมืองพนมเพ็ญ ญวนจึงกวาดต้อนผู้คนทิ้งเมืองพนมเพ็ญลงไปตั้งที่เมืองโจดกใกล้ชาย