ยกกองทัพกรุงเทพฯ ออกมาสู้รบญวน ปราบปรามเมืองเขมรเรียบร้อยแล้ว จึงยกองค์ด้วงเขมรขึ้นเป็นพระหริรักษ์รามาธิบดี ราชการเมืองพนมเป็ญก็ราบคาบได้ครั้งนั้น แล้วท่านเจ้าพระยาบดินทรเดชาจึงให้ข้าหลวงแลพระยาพระเขมรออกไปปักปันเขตต์แดนซึ่งเป็นเมืองติดต่อกันใกล้เคียงกันกับเมืองพนมเป็ญ ขณะนั้น ข้าพเจ้าได้ลงไปรับราชการอยู่กับท่านเจ้าพระยาบดินทรเดชา ข้าพระเจ้าได้รับตราตั้งเป็นที่ขุนโยธาภักดี นายกองควบคุมเลขจรจัด ท่านเจ้าพระยาบดินทรเดชาได้ใช้ข้าพเจ้า กับหลวงอนุรักษ์ภูเบศฯ ขุนสิทธิณรงค์ ข้าหลวง พระยาวรจุล กับพระยาพระเขมรหลายนาย ขึ้นมาปักปันเขตต์แดนเมืองพนมเป็ญซึ่งติดต่อกันกับเมืองเชียงแตง ได้ปักไว้ที่บุ่งขลา มีต้นมะขามเล็กโตกำกึ่งอยู่ ๔ ต้น แล้วข้าพเจ้า กับข้าหลวง แลพระยาเขมร จึงพากันขนก้อนหินศิลามากองไว้ที่ต้นมะขามแลต้นเสา แล้วเอาไม้พยอมโตประมาณ ๓ กำกึ่ง สูง ๓ ศอก มาทำหลักฝังไว้ที่ริมต้นมะขามเป็นเขตต์แดน ครั้นปักหลักที่บุ่งขลาเสร็จแล้ว ข้าหลวง กับข้าพเจ้า แลพระยาเขมร ก็พากันขึ้นไปปักที่ด่านจะลับอีกแห่งหนึ่ง มีต้นกะโดนต้นหนึ่ง ต้นรังสองต้น เป็นสำคัญ แล้วได้เอาไม้รังโต ๓ กำกึ่ง สูง ๓ ศอก ฝังไว้ที่เป็นเขตต์แดน เสร็จแล้ว ข้าพเจ้า กับท่านข้าหลวง แลพระยาเขมร ก็กลับมาถึงเมืองเชียงแตง ข้าพเจ้าจึงลาหลวงอนุรักษ์ภูเบศฯ ขุนสุทธิณรงค์ กลับขึ้นไปบ้านเรือนข้าพเจ้าที่บ้านข่าตะแบง ฝ่ายหลวงอนุรักษ์ภูเบศฯ ขุนสิทธิณรงค์ ก็เลยขึ้นไปเมืองนครจำปาศักดิ์ พระยาวรจุล เขมร กับพระยาเขมร พักคอยอยู่ที่เมืองเชียงแตง ข้าพเจ้าไปถึง
หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๗๐) - ๒๔๘๔.pdf/234
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๑๘