หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๗๐) - ๒๔๘๔.pdf/235

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๑๙

บ้านเรือนข้าพเจ้าแล้วได้ทราบข่าวว่า หลวงอนุรักษ์ภูเบศฯ ขุนสิทธิณรงค์ พาเจ้าโพสาราช เมืองนครจำปาศักดิ์ แลพระยาเขมร ลงไปปักเขตต์แดนที่เสียมโบกอีกแห่งหนึ่ง แล้วกลับลงไปกราบเรียนชี้แจงรายเขตต์แดนต่อท่านเจ้าพระยาบดินทรเดชาที่เมืองพนมเป็ญ ครั้นณปีมะเมีย อัฏฐศก ข้าพเจ้าจึงกลับลงไปที่เมืองพนมเป็ญ ได้นองาลงมาไปเป็นของน้ำใจท่านเจ้าพระยาบดินทรเดชา แลกราบเรียนชี้แจงการเขตต์แดนซึ่งข้าพเจ้ามาปักที่บุ่งขลาที่ด่านจะลับ ท่านเจ้าพระยาบดินทรเดชามีบัญชาว่า ชอบด้วยราชการอยู่แล้ว ข้าพเจ้าก็ได้รับราชการอยู่ประมาณหลายเดือน ท่านเจ้าพระยาบดินทรเดชาจวนจะลงไปกรุงเทพฯ ข้าพเจ้ากราบลามาบ้านข้าพเจ้า ท่านเจ้าพระยาบดินทรเดชาได้ให้ตราสำหรับตัวฉบับหนึ่ง ใจความว่า มิให้เจ้าเมืองกรมการกดขี่คุมเหงให้ได้ความเดือดร้อน ครั้นณปีมะเมีย นพศก อายุข้าพเจ้าได้ ๖๓ ปี ข้าพเจ้าได้รับราชการอยู่กับเจ้านครจำปาศักดิ์ ภายหลัง โปรดมีศุภอักษรออกมาถึงเจ้านครจำปาศักดิ์ว่า เมืองได้ว่างเปล่าอยู่ ไม่มีเจ้าเมือง ก็ให้ตั้งข้าพเจ้าเป็นเจ้าเมืองควบคุมเลขทำราชการขึ้นกับเมืองนครจำปาศักดิ์ เจ้าเมืองนครจำปาศักดิ์คำสุขคนนี้จึงได้ยกบ้านตะแบงขึ้นเป็นเมืองสุตนคร ตั้งให้ข้าพเจ้าเป็นพระกำแหงพลศักดิ์ เจ้าเมือง ทำราชการขึ้นกับเมืองนครจำปาศักดิ์ต่อมาจนทุกวันนี้ เป็นความสัตย์จริงที่ได้รู้เห็นการเขตต์แดน สิ้นคำให้การแต่เท่านี้ ได้เขียนชื่อประทับตรารูปมนุษยไว้เป็นสำคัญ