หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๗๐) - ๒๔๘๔.pdf/249

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๓๓
ยกกระบัตร พระพุทธโยธี ข้าหลวง กับเจ้าเมืองสังฆ ขึ้นมากวาดเอาครอบครัวพระยาเดโชลงไปณกรุงเทพฯ เจ้าพระยาบดินทรเดชาจึงโปรดให้นักเมือง บุตรพระวิเสศปัง กับหลวงภักดีจำนง บุตรเขยพระยาเดโช เกลี้ยกล่อมเอาครอบครัวบ่าวไพร่ที่แตกหนีเข้าป่าดงออกมาไว้ แล้วเจ้าพระยาบดินทรเดชาจึงบอกให้นักเมืองกับหลวงภักดีจำนงเข้าไปณกรุงเทพฯ จึงโปรดเกล้าฯ ตั้งนักเมืองเป็นพระณรงค์ภักดี เจ้าเมือง นักอิน บุตรท้าวขุนสาร เป็นหลวงอภัยภูธร ปลัด นักเตกเป็นหลวงแก้วมนตรี ยกกระบัตร ยกบ้านท่าแสนขึ้นเป็นเมืองเซลำเภาที่ ๑ แล้วโปรดให้สนองอี่ บุตรพระยาเดโช ที่ตั้งอยู่เมืองท่าแสงนั้น กลับคืนไปเมืองกะปงสวาย เจ้าปาศักดิ์ฮุยจึงขอเอาตัวพระวิเศษณเมืองขุขันมาไว้เมืองนครจำปาศักดิ์ แล้วจึงโปรดเกล้าฯ ตั้งหลวงภักดีจำนงเป็นพระมโนจำนง เจ้าเมืองมโนไพร โปรดให้หลวงอนุรักษ์ภูเบศ ข้าหลวง เจ้าโง่นเพี้ยอุปราชเมืองนครจำปาศักดิ์ กับปลัดกรมการเมืองขุขัน พาตัวพระมโนจำนงไปตั้งเมืองมโนไพรและปันหลักเขตต์แดนเมืองเซลำเภา ทิศอุดรถึงคลองตะเคียน ทิศบูรพาตามฝั่งน้ำโขงลงไปปากคลองเสียมโบก ทิศทักสิณตามดงฉลองไปถึงเขาจะลอมหนอง กาวี
ปอาว
เขาดองกำเบ็ดกะปงทมไปถึงคลองปอาวน้ำเสน ทิศปราจีณขึ้นมาตามคลองสำปลุกมาถึงหนองฉแงหินโคนเขาหินเหล็กเขาโกนจะแกถึงหนองกังสวายมาถึงหนองตำหนักถมหนองจอกบรรจบครบปากคลองเกดียนเป็นเขตต์แดนเมืองเซลำเภา ณปีจอ สำฤทธิศก ศักราช ๑๒๐๐ เจ้าปาศักดิ์ฮุยถึงแก่พิราลัยแล้ว ถึงณปีขาน จัตวา 
๓๑