หน้า:ประมวลกฎหมาย รัชกาลที่ ๑ (๑) - ๒๔๘๑.pdf/351

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๓๗
ภญาน

ด้วยฝ่ายโจท
จำเลย
ไซ้ ชื่อพญาณอาษา ท่านบให้พึงฟัง ให้กฎเอาคดีนั้นเปนแพ้
11
๑๑อนึ่ง สมพญาณนั้น คือว่าโจท
จำเลย
ทังสองอ้างพ่อแม่พี่น้องญาติฝ่ายข้างหนึ่งเปนพญาณ ๆ พิสูทตัวแล้วกล่าวสมอ้างผู้นั้น ท่านว่า เปนองคพญาณ เปนชะนะแก่ความ บาปบุญคุณโทษไว้แก่ผู้กล่าว
12
๑๒ทิพพญาณนั้นมี ๑๕ ประการ ๆ หนึ่ง อ้างผู้อยู่แก่ศีลทรงพรต ประการหนึ่ง อ้างนักปราราชบัณฑิตยผู้อยู่แก่ธรรม ประการหนึ่ง อ้างท่านผู้มีบันดาศักดิ ประการหนึ่ง อ้างพญาณร่วมกัน ประการหนึ่ง พระภิกษุวิวาทกันพระครูเจ้าวัดเปนพญาณ ประการหนึ่ง ศิษยโยมวิวาทกัน ครูบาอาจาริยชิต้นเปนพญาณ คู่ความทังสองวิวาทกัน สุภากระลาการเปนพญาณ บิดามานดาวิวาทกันบุตรเปนพญาณ บุตรเปนความกัน บิดามานดาเปนพญาณ พี่วิวาทกัน น้องเปนพญาณ น้องวิวาทกัน พี่เปนพญาณ หลานวิวาทกัน ปู่ญ่าตายายลุงป้าน้าอาวอาเปนพญาณ ปู่ญ่าตายายลุงป้าน้าอาวอาวิวาทกัน หลานเปนพญาณ บ่าววิวาทกัน นายเปนพญาณ ข้าเปนความกัน เจ้าเงินเปนพญาณ
กล่าวมาทัง ๑๕ ประการนี้ พิสูทตัวชะนะแก่พิสูท
ม.ธ.ก.