หน้า:ปัญญาส (๑๔) - ๒๔๗๐.pdf/11

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
6
ปัญญาสชาดก

เพลาเช้าแม่จงพาเอาลูกไปวางไว้ที่โคนไม้ต้นใดต้นหนึ่ง ถึงเพลาเย็นแม่จึงค่อยออกจากบ้านไปพาลูกมา เมื่อนางแม่ยกศีร์ษะพระโพธิสัตว์วางลงบนถาดไม้พาไปสู่ที่มีหญ้าวางไว้ที่โคนไม้ต้นหนึ่งแล้วกลับมาบ้าน พระโพธิสัตว์ก็อยู่องค์เดียว ด้วยอานุภาพของพระโพธิสัตว์ถาดไม้ที่รองพระเศียรนั้นก็กลับเปนทองควรค่าถึงแสนหนึ่ง อนึ่งฝูงโคกระบือก็เที่ยวกินใบไม้ใบหญ้าอยู่ข้าง ๆ ไม่ไปที่อื่น อนึ่งปริมณฑลเงาไม้ก็ตั้งอยู่โดยปรกติ เวลาตะวันเที่ยงอย่างไรเวลาเย็นก็อย่างนั้นมิได้เปลี่ยนคล้อยไป เวลาเย็นมารดาพระโพธิสัตว์ก็ออกจากบ้าน พาพระโพธิสัตว์กลับเรือน ให้บริโภคอาหารอาบน้ำเสร็จแล้วก็อุ้มพาเข้าไปในห้องแล้วก็นอนหลับไป

อยู่จำเนียรกาลนานมาในเบื้องหน้า พระโพธิสัตว์เจริญขึ้น อายุได้ ๗ ขวบ คืนวันหนึ่ง จวนใกล้รุ่ง เมื่อตื่นนอน จึงดำริห์ว่า เรามาเกิดในตระกูลคนเข็ญใจ มารดาเราก็อนาถา เยียวยารักษาชีวิตโดยฝืดเคือง การทำนาก็ลำบาก จำเราจักทำการค้าขายเลี้ยงมารดาเถิด คิดแล้วพอเช้าก็บอกแก่มารดาว่า แม่ ลูกจะไปทำการค้าขายมาเลี้ยงแม่ มารดาถามว่า ลูกจะทำการค้าขายอย่างไร คราวนั้น มีพวกพ่อค้าเรือห้าร้อยสนทนากัน จักแต่งเรือไปค้าขายเมืองสุวรรณภูมิ พระมหาสัตว์ได้ฟังข่าว จึงถามมารดาว่า แม่ ในบ้านเรามีหลักทรัพย์อะไรอยู่บ้าง ครั้นมารดาตอบว่า ไม่มี จึงบอกว่า แม่ วันนี้แม่จงไปหานายบ้าน ยืมทองห้าร้อยบาทมาให้ลูก ลูกจะไปทำทุนค้าขาย นางจัณฑาลบัณฑิตจึงกล่าวว่า ลูกจะไปทำการค้าขายอย่างไรได้ แล้วกล่าวต่อไปว่า