หน้า:ปัญญาส (๑๔) - ๒๔๗๐.pdf/16

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
11
๔๘ สุวรรณสิรสาชาดก

อยู่ที่เกาะนี้ พ่อจงอนุเคราะห์พาฉันไปไว้ที่เกาะทรายนี้เถิด พวกพ่อค้าจึงว่า พ่อเอ๋ย พวกเราเขาเรียกกันว่า พ่อค้า ที่ไหนมีคนมาก ก็พากันไปที่นั้น ไฉนเจ้าจะมาอยู่คนเดียวเล่า อนึ่ง แม่ของเจ้าก็ได้ว่ากล่าวสั่งสอนไว้ ฉนั้น เจ้าอย่าอยู่ที่เกาะนี้เลย พระโพธิสัตว์ก็กล่าวคำยืนยันจะขออยู่ให้ได้ นายสำเภาได้ฟังดังนั้น จึงห้ามปรามว่า พ่อเอ๋ย เจ้าไม่มีกาย ไม่มีมือเท้า มีแต่หัวเท่านั้น ใครจักทำเรือนให้เจ้าอยู่ ใครจักหาเข้าให้เจ้ากิน เจ้าจะต้องรับทุกขเวทนาตากแดดตากลมเปนอันมาก พระโพธิสัตว์ก็ยังยืนยันว่าจักอยู่ให้ได้ นายสำเภาจึงว่า ถ้าฉนั้น ก็ตามใจเจ้าเถิด พระมหาสัตว์ได้ฟังก็ชื่นชมโสมนัสกล่าววาจาว่า ท่านทั้งหลายอย่าโกรธข้าพเจ้าเลย ขอให้พาข้าพเจ้าไปส่งที่นั้นเถิด นายสำเภาก็สั่งพวกพ่อค้าว่า ท่านทั้งหลายจงพาสุวรรณสิรสากับถุงทองไปวางไว้ที่เกาะนั้นเถิด พวกพ่อค้าทั้งหลายก็ไปสู่สำนักกุมารโพธิสัตว์ แล้วบ่นรำพรรณว่า พ่อเด็กน้อย แต่นี้ไป พวกเราจะไม่เห็นเจ้า จักมิได้เจรจาเล่นหัวกับเจ้า เพราะต้องพรากจากกัน การเจรจาครั้งนี้เปนครั้งที่สุด เจ้าจักอยู่คนเดียวอย่างไรได้ รำพรรณแล้วก็อวยพรว่า พ่อเด็กน้อย ขอให้เจ้าอย่ามีโรคภัย มีอายุยืนยาวเถิด พระโพธิสัตว์จึงเล้าโลมมหาชนด้วยธรรมเทศนาว่า ท่านทั้งหลายอย่ารำพรรณวิตกวิจารไปเลย สรรพสิ่งในโลกนี้ล้วนแต่มีความแปรปรวนเปนธรรมดาหาแก่นสารมิได้ ย่อมจักถึงซึ่งวิโยคพลัดพรากจากกันเสมอ ท่านทั้งหลายพาเราไปส่งไว้ที่เกาะเถิด พวกพาณิชเหล่านั้นจึงพาสุวรรณสิรสาโพธิสัตว์กับถุงทองแลพืชพรรณต่าง ๆ ลงเรือเล็กไปที่เกาะนั้น ทำที่อยู่ให้วางพระโพธิสัตว์ลงไว้ แล้วก็ลากลับมาเรือ