หน้า:ปัญญาส (๑๔) - ๒๔๗๐.pdf/17

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
12
ปัญญาสชาดก

ครั้งนั้น พระโพธิสัตว์ เมื่อพวกพ่อค้าเอาไปวางไว้ที่เกาะแล้ว ก็อยู่เปนสุขสบาย ออกจากเศียรของพระองค์ แล้วเอาพืชพรรณเหล่านั้นเพาะลงในที่ต่าง ๆ ด้วยอานุภาพบุญของพระโพธิสัตว์ พืชเหล่านั้นก็งอกงามเจริญผลิดอกออกผล

ครั้งนั้น ยังมีธิดาพญานาค ๒ นาง ชื่อ นางปัญจปาปี ๑ นางปทาริกา ๑ อำลามารดาบิดาออกจากนาคพิภพขึ้นมาที่เกาะนั้น นางนาคทั้ง ๒ เห็นฟักแฟงแตงน้ำเต้า ก็เข้าเก็บหักเล่นตามอัธยาศัย พระมหาสัตว์ได้ยินเสียง ก็ออกมาจากศีร์ษะ เข้าไปถามนางนาคทั้ง ๒ ว่า ไฉนเจ้าจึงมาหักทำลายพืชพรรณของเรา นางนาคได้ยินถาม ก็ตกใจกลัว จึงตอบว่า พี่ชาย ข้าไม่รู้ว่าเปนของเจ้า จึงได้หักทำลาย เพราะแต่ก่อนข้ามาที่นี่ก็ไม่เห็นเจ้า พึ่งมาเห็นวันนี้ ข้าขอถามเจ้า เจ้าเปนพระอินทร์หรือพระพรหม พระโพธิสัตว์ดำริห์ว่า ถ้าเราจะตอบว่าเปนพระอินทร์ เปนเทวดาที่มีศักดิ์ใหญ่ หรือเปนท้าวมหาพรหม นางก็จักเชื่อ แต่ว่า คำจริงเปนคำอุดมเลิศประเสริฐสุด คิดแล้วจึงตอบว่า น้องรัก พี่ไม่ใช่เทวินท์อินทร์พรหม พี่เปนลูกคนจัณฑาลอยู่บ้านจันฑาลคามใกล้เมืองพาราณสี พี่มาที่นี่ประสงค์จะค้าขาย มาเห็นเกาะน่ารื่นรมย์ จึงได้มาพักอยู่ตามความสบาย นางนาคทั้งสองได้ฟังคำพระโพธิสัตว์แล้ว จึงกล่าวว่า พี่อย่าโกรธข้าเลย ข้าจะให้เงินทองตอบแทน ครั้นพระโพธิสัตว์ตอบอนุญาตแล้ว นางนาคทั้ง ๒ ก็อำลากลับไปนาคพิภพ ถึงสำนักบิดา กราบไหว้แล้ว เมื่อจะขอเงินทอง จึงกล่าวว่า ข้าแต่บิดา ข้าพเจ้าลาบิดาขึ้นไปที่เกาะทราย ไปพบฟักแฟงแตงน้ำเต้าของเจ้า