หน้า:ปัญญาส (๑๔) - ๒๔๗๐.pdf/19

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
14
ปัญญาสชาดก

ไม่กินผลาผลไม้ กินแต่อาหารทิพย์ พระโพธิสัตว์ก็พูดจาปราสัยตามส่วนที่ควรจะระลึกถึงกันสิ้นกาลนาน นางนาคธิดาทั้ง ๒ มอบทองค่าผลาผลไม้ให้พระโพธิสัตว์ แล้วก็ลากลับไปนาคพิภพ

อปรภาเค ครั้นอยู่จำเนียรกาลนานมา พวกพาณิชทั้งหลายพากันไปถึงเมืองหนึ่งในสุรรรณภูมิประเทศ จำหน่ายสินค้าหมด รวบรวมเงินแลทองผ้าผ่อนเปนต้นได้แล้ว ก็นำลงบันทุกเรือแล่นออกจากท่ามาโดยลำดับตราบเท่าบัลลุถึงที่อยู่ของพระโพธิสัตว์ ขณะนั้น นายสำเภาก็คิดขึ้นมาถึงพระโพธิสัตว์ว่า เจ้าสุวรรณสิรสากุมารเห็นจักตายเสียแล้วโดยไม่ต้องสงสัย เพราะเหตุต้องตากแดดตากลมแลอดอาหาร จึงแลขึ้นไปดูบนเกาะ เห็นพืชพรรณทั้งหลายมีสีเขียวชะอุ่ม จึงพูดกับพวกเรือว่า ท่านทั้งหลายจงสังเกตดูเกาะนี้ มีสีชะอุ่มยิ่งนัก ขณะนั้น พระโพธิสัตว์พอแลเห็นเรือก็หายกายเข้าไปในศีร์ษะ พอเรือมาถึงเกาะนั้น นายสำเภาก็ลุกจากอาสนลงจากเรือ เมื่อจะไปหาพระโพธิสัตว์ จึงชวนพ่อค้าเปนอันมากเข้าไปหา เมื่อจะกระทำปฏิสันฐาร จึงกล่าวคาถาว่า

สุวณฺณสิรสากุมาร อโรโค นิรุปทฺทโว
นิภโย สุขิโต ภว อิห อุญฺฉาจริยาย
โกจิ ตํ ปฏิชคฺคติ โกจิ ตวาหารํ เทติ
โก อุทกญฺจ กฏฺฐญฺจ อาหริสฺสติ อคฺคิญฺจ ฯ

แปลว่า ดูกรเจ้าสุวรรณสิรสากุมาร เจ้าไม่มีโรคไม่มีภัย ไม่มีอะไรเบียดเบียน อยู่เปนสุขสบายในที่นี้ ด้วยวิธีหาเช้ากินค่ำหรืออย่างไร ใครปฏิบัติเจ้า ใครหาเข้าให้เจ้ากิน ใครหาน้ำท่าฟืนไฟให้เจ้า