หน้า:ปัญญาส (๑๔) - ๒๔๗๐.pdf/23

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
18
ปัญญาสชาดก

นางพิมพาอยู่ร่วมกับพระราชสามี เกิดพระราชบุตรี ๓ นาง ชื่อ สุวรรณเทวี นาง ๑ สุวรรณจันทา นาง ๑ สุวรรณคันธา นาง ๑ ราชธิดาทั้ง ๓ นั้นมีชันษาเรียงปีกัน คือ สิบสี่ สิบห้า สิบหก ครั้งนั้น พระโพธิสัตว์นอนหลับลงไปก่อนจนเที่ยงคืนจึงตื่นขึ้นนอนตรึกไปว่า ทำไฉนหนอเราจักได้นางกุมารีที่มีบุญมาก อุดมด้วยรูป บริบูรณ์ด้วยลักษณ ๖๔ ประการ ประดับด้วยเบญจกัลยาณี เมื่อตริตรึกเช่นนี้ พอรุ่งเช้าก็เข้าไปอ้อนวอนมารดาว่า แม่ ลูกอยากได้นางกุมารีที่มีบุญ มารดาก็ห้ามว่า ลูกรัก เราเปนคนอนาถาทุคคตเข็ญใจ จะหานางกุมารีที่มีบุญมากที่ไหน อนึ่งเล่า เจ้าก็ไม่มีกาย มีแต่ศีร์ษะ จักทำอะไรกับภริยาได้ เมื่อนางห้ามปรามอย่างนี้ พระโพธิสัตว์ก็เฝ้าวิงวอนอยู่ร่ำไป ในสมัยนั้น พระโพธิสัตว์ได้ฟังคำเขาเล่ากันต่อ ๆ มาว่า บันดาราชธิดาของพระเจ้าพรหมทัตทั้ง ๓ นางนั้น นางสุวรรณคันธาน้องเล็กมีรูปทรงงดงามน่าเลื่อมใส ประกอบด้วยเบญจกัลยาณี มีสรีรอินทรีย์ดังนางเทพอับสร พระโพธิสัตว์ไม่สามารถกลั้นความสิเนหาได้ จึงอ้อนวอนมารดาว่า แม่ ลูกได้ยินเขาสรรเสริญว่า นางสุวรรณคันธาประกอบด้วยเบญจกัลยาณี ลูกอยากได้มาเปนภริยา แม่จงไปหาข้าราชการมีเสนาบดีเปนต้น วานให้เขาขอให้แก่ลูก ถ้าลูกได้ ก็จักคงมีชีวิตอยู่ ถ้าไม่ได้ ก็จักตาย นางมารดาก็ห้ามอีกว่า ลูกรัก เจ้าเกิดในตระกูลทุคคตเข็ญใจ อนึ่ง ก็ไม่มีกาย มีแต่ศีร์ษะ เจ้าจะเอื้อมขอนางกุมาริกาที่เกิดในตระกูลสูงประกอบด้วยลักษณแลรูปทรงอันงามอย่างไรได้ นางคงไม่ยินดีด้วยเจ้าอันหาร่างกายมิได้ ธรรมดานางกุมารี