หน้า:ปัญญาส (๑๔) - ๒๔๗๐.pdf/24

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
19
๔๘ สุวรรณสิรสาชาดก

ย่อมรักใคร่บุรุษก็ด้วยอาศรัยโลกธรรม เจ้าจักเสพย์โลกธรรมอย่างไรได้ ฟังคำแม่เถิด อย่าไปหวังนางสุวรรณคันธาเลย ห้ามปรามแล้วจึงกล่าวเปนอุปมาว่า บุรุษอันธพาลแลเห็นพระจันทร์อันแวดล้อมไปด้วยดวงดาวในอากาศ ประสงค์อยากได้ ร้องไห้อ้อนวอนมารดาว่า แม่ ข้าอยากได้พระจันทร์พร้อมทั้งหมู่ดาว แม่จงเอามาให้ข้า ฉันใด ก็เหมือนตัวเจ้ามาปราถนานางกุมารีที่ไม่ควรจะได้ แม่จักทำอย่างไรให้เจ้าได้ เมื่อมารดาห้ามดังนี้ พระโพธิสัตว์ก็นิ่งอยู่

ครั้งนั้น นางจัณฑาลบัณฑิตสังเกตกิริยาแห่งลูกชาย เห็นไม่สบาย จึงคิดว่า เจ้าสุวรรณสิรสากุมารนี้เห็นจะน้อยใจโทมนัสโกรธด้วยเราว่ากระทบ ถ้าเราไม่นำนางสุวรรณคันธามาให้ น่ากลัวหทัยจะแตกตาย จำเราจะปลอบแล้วไปพยายามดู คิดแล้วจึงปลอบว่า ลูกรัก เจ้าอย่าเศร้าโศกเสียใจไปเลย แม่จะไปหามหาอำมาตย์ให้เขาช่วยทูลพระเจ้าแผ่นดินดู พระโพธิสัตว์ดีใจตอบว่า ดีแล้วแม่ นางก็เล้าโลมว่า ความปราถนาของเจ้าจักสำเร็จคราวนี้ ว่าแล้วนางก็จูบพระโพธิสัตว์ ออกจากเรือนไปยังเมืองพาราณสี เข้าไปภายในพระนคร แล้วก็เข้าไปหามหาอำมาตย์ในเรือน ทำความเคารพ แล้วก็ยืนอยู่

ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา สมเด็จพระศาสดา เมื่อจะทรงประกาศเนื้อความนั้น จึงตรัสว่า

อามนฺตยิตฺวาน ปุตฺตํ มหามจุจสฺส สนฺติกํ
อุปสงฺกมิตฺวาน สา กถยนฺตามจฺจํ อิติ
นโม ตฺยตฺถุ ภทฺทนฺเต มม กรุณาย ยาจสฺสุ
ราชธิตรํ มํ ปุตฺตสฺส ฯ