หน้า:ปัญญาส (๑๔) - ๒๔๗๐.pdf/30

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
25
๔๘ สุวรรณสิรสาชาดก

แปลว่า พระเจ้าพรหมทัตพาพระโพธิสัตว์กลับไปสู่พระราชนิเวศน์ เสด็จขึ้นปราสาทแล้ว จึงตรัสสังบังคับอำมาตย์ทั้งหลายให้ทำโรงราชมาฬกสำหรับอภิเษก ตั้งไว้ซึ่งกองเงินกองแก้วกองทอง ประดับประดาด้วยเครื่องอลังการต่าง ๆ แวดวงล้อมม่านทอง ยกขึ้นซึ่งฉัตร์เงินฉัตร์ทองธงชัยธงปฎาก ดาษเพดานด้วยดาวเงินดาวทอง ให้กระทำกองเงินกองทองกองแก้วที่จะเชิญขึ้นนั่งบนนั้น ครั้นเสด็จแล้ว พระเจ้าพรหมทัตก็ให้ประดับพระราชธิดาให้วิจิตรด้วยเครื่องอลังการต่าง ๆ นา ๆ พระองค์เสด็จไปสู่โรงราชมาฬก ประทับเปนประธาน ส่วนพระนางพิมพาเทวีก็ประดับพระราชธิดาด้วยเครื่องอลัการ พาออกไปประทับอยู่บนอาสน์อันสมควร ส่วนอำมาตย์ มีเสนาบดีเปนต้น ก็นั่งอยู่ทางหนึ่ง พวกพราหมณ์ มีปโรหิตเปนต้น ก็นั่งอยู่ทางหนึ่ง พวกคหบดี มีเศรษฐีเปนต้น ก็นั่งอยู่ทางหนึ่ง สนมนางใน มีพระมเหษีเปนต้น ก็นั่งอยู่ทางหนึ่ง นางนักสนมทั้งหลายก็ขับร้องประโคมมโหรี พอถึงฤกษ์งามยามดี มีศุภมงคลพร้อมทั้งขณะ พราหมณ์ปโรหิตก็เชิญน้ำสังข์มาตั้งไว้ เชิญภาชนรองเศียรพระโพธิสัตว์ให้ประดิษฐานอยู่บนกองเงินกองทอง นางพิมพาเทวีก็จูงกรราชธิดาให้นั่งเหนือกองแก้วกองทอง พระเจ้าพรหมทัตจึงทรงประคองสังข์อภิเษกพระเจ้ามันธาตุ หลั่งน้ำลงอภิเษกทั้งสอง คือ ให้พระโพธิสัตว์เปนสามีราชธิดา แล้วสั่งอำมาตย์ราชบริพารให้ชำระปราสาทอันสมควร ประทานให้เปนที่อยู่แห่งชนทั้งสอง ชนทั้งสองก็สนทนาปราสัยด้วยถ้อยคำอันเปนที่รักแห่งกันแลกัน อยู่สมัครสโมสร ปราศจากโรคภัย เปนสุขสบาย ไม่มีความเดือดร้อน