หน้า:ปัญญาส (๑๔) - ๒๔๗๐.pdf/34

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
29
๔๘ สุวรรณสิรสาชาดก

ร้องไห้ทำไม นางก็เล่าให้ฟังตามความคิด ครั้งนั้น พระโพธิสัตว์จึงกล่าวว่า ถ้าน้องเจ้าจะใคร่เห็นร่างกายของพี่ เจ้าจงไปหาม้าสินธพที่มีกำลังอาจขับขี่ได้รวดเร็วมาให้ เจ้าจะได้เห็นพี่ขี่ม้าตามเสด็จพระราชบิดา แต่ว่า เจ้าเห็นแล้วอย่าได้บอกแก่ใคร ๆ เพราะพี่นี้มิใช่คนพอดีพอร้าย พี่จุติจากดาวดึงสเทวโลกลงมาเกิดในที่นี้ นางสุวรรณคันธาเทวีได้ฟังก็ชื่นชมโสมนัส กราบพระโพธิสัตว์แล้วจึงไปนำม้าสินธพซึ่งนายสารถีฝึกหัดไว้เปนอันดีมาผูกไว้ที่ประตูปราสาท แล้วเข้ามาบอกพระโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์ก็ออกจากศีร์ษะ มีพระกายงามดังสีทองเต็มทั้งองค์น่าเลื่อมใส บริบูรณ์ด้วยพระลักษณะน้อยใหญ่มิได้บกพร่อง งามด้วยสีริวิลาสดังสมเด็จอมรินทร์เทวราช พระองค์จึงประดับพระกายด้วยเครื่องอลังการทั้งปวง แล้วจึงสั่งกำชับแก่นางสุวรรณคันธาว่า น้องรัก เจ้าอย่าได้บอกกล่าวแก่ใครเลย สั่งแล้วก็ขึ้นสู่หลังม้าขับมุ่งตรงไปยังสวนอุทยาน พระโพธิสัตว์ขับไปโดยเร็ว ก็ไปถึงก่อนพระเจ้าพรหมทัต พอถึงก็ลงจากหลังม้าขึ้นไปนั่งอยู่บนแผ่นศิลาอันเปนราชบัลลังก์ ลำดับนั้น พระเจ้าพรหมทัตเสด็จไปโดยราชวิถี ทอดพระเนตร์เข้าไปภายในสวน เห็นสุวรรณสิรสากุมารแล้ว ทรงสำคัญว่า เปนเทวดารักษาสวนหรือท้าวสักกะเทวราช พระองค์ก็ก้มพระเศียรลงประคองอัญชลีเสด็จเข้าไปใกล้ ออกพระวาจาว่า ข้าแต่ท่านเทวราช ข้าพเจ้าขอนอบน้อมนมัสการ ไฉนท่านจึงมาประดิษฐานอยู่ณที่นี่ พระโพธิสัตว์ได้ฟังแล้วจึงทูลว่า ดูกรพระองค์ผู้เปนมหาราช เรามาแต่เทวโลก ประสงค์จะเที่ยวชมสวนกับด้วยพระองค์ กล่าวแล้วก็เที่ยวชมสวนอยู่จนเวลาพระอาทิตย์อัสดงค์ พอ