หน้า:ปัญญาส (๑๔) - ๒๔๗๐.pdf/35

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
30
ปัญญาสชาดก

เวลาเย็น พระเจ้าพรหมทัตมีมหาชนเปนบริวารก็เสด็จกลับเข้าสู่พระนคร เสด็จขึ้นพระราชนิเวศน์ เสวยพระกระยาหาร แล้วก็บันทมบนพระที่ ส่วนพระมหาสัตว์ เมื่อมหาชนตามเสด็จพระเจ้าพรหมทัตกลับไปแล้ว ก็ขึ้นสู่หลังอาชา เหาะขึ้นสู่อากาศมาลงที่ปราสาท เข้าสู่ห้อง แล้วก็หายกายเข้าไปในศีร์ษะ

ทุติยทิวเส ครั้นรุ่งขึ้นวันที่สอง พระเจ้าพรหมทัตเสวยแลชำระพระองค์แล้ว จึงเสด็จออกประทับณท้องพระโรงพร้อมด้วยหมู่อำมาตย์ราชบริพาร ครั้งนั้น มีเสนาบดีคนหนึ่งชื่อ นนท์ เข้าไปเฝ้าพระเจ้าพรหมทัต ถวายบังคมประนมกรทูลว่า ขอพระราชทาน สุวรรณสิรสาซึ่งเปนสามีนางสุวรรณคันธานั้นมิได้สมควรแก่ชาวพระนครทั้งหลาย ทำให้พระองค์ขายพระพักตร์ ข้าพระองค์จักยกโทษเรื่องไม่ตามเสด็จไปสวนอุทยานพาลฆ่าหรือขับเสีย ความละอายขายพระพักตร์ก็จักไม่มีแก่พระองค์ พระเจ้าพรหมทัตก็ทรงเชื่อคำนนทเสนาบดี จึงรับสั่งให้หาพระราชธิดามาแล้วตรัสว่า เจ้าสุวรรณคันธา นนทเสนาบดีเขามาพูดกับพ่อว่า สุวรรณสิรสากุมารสามีของเจ้ามิได้ตามเสด็จสวนอุทยาน ต้องโทษหนัก ควรประหารชีวิตหรือขับเสีย เจ้าอย่าน้อยใจ อย่าสิเนหาเลย พ่อจักหาราชกุมารอื่นที่มีรูปโฉมงดงาม เกิดในขัติยตระกูลเสมอกัน ให้เปนสามีเจ้าใหม่ นางสุวรรณได้ฟังตรัส ก็มีกายสั่นหวั่นไหว มีหทัยดังจะแตก โทมนัสร้องไห้ แล้วกราบทูลว่า ขอเดชะพระองค์ผู้เปนมหาราช เมื่อพระองค์ทรงเห็นสามีของข้าพระบาทประกอบด้วยโทษลามกแล้ว ไฉนจึงพระราชทานข้าพระบาทให้เปนบาทบริจาริกา