หน้า:ปัญญาส (๑๔) - ๒๔๗๐.pdf/44

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
39
๔๘ สุวรรณสิรสาชาดก

สาธุการ มหาชนทั้งหลาย มีพราหมณ์ คฤหบดี แลอำมาตย์เปนต้น ก็บูชาด้วยเครื่องอลังการทั้งปวง แลทำสาธุการด้วยเสียงสนั่นหวั่นไหว ท้าวสหัสนัยน์จึงโยนลูกคลีตีไปในอากาศพระโพธิสัตว์ก็รับตีตอบมา ท้าวสักกะก็ตีตอบไปอีก พระโพธิสัตว์ก็ตีตอบมา เล่นอยู่สักครู่หนึ่ง สมเด็จท้าวสักกะก็อันตรธานหายไป พระโพธิสัตว์ก็กลับลงมาจากอากาศ เข้าไปนั่งอยู่ใกล้ราชอาสน์พระเจ้าพรหมทัต พระเจ้าพรหมทัตทอดพระเนตร์เห็นสุวรรณสิรสากุมารมีรูปกายผ่องใสดังเนื้อทอง ก็ทรงเลื่อมใสโสมนัส เสด็จลุกจากอาสน์ สวมกอดพระโพธิสัตว์ จูบเศียร ให้นั่งบนบัลลังก์ ทรงจับพระเต้าทอง ทรงหลั่งน้ำบนหัตถ์พระโพธิสัตว์เจ้า แล้วพระราชทานราชสมบัติทั้งสิ้น ทรงอภิเษกพระโพธิสัตว์กับนางสุวรรณคันธาในราชสมบัติ ตั้งให้นางสุวรรณคันธาเปนใหญ่กว่านางนักสนมนาฏกิตถีทั้งหลาย พระโพธิสัตว์ก็ได้พระนามว่า สุวรรณสิรสาบรมกษัตริย์ ปรากฎพระนามทั่วไปในสกลชมพูทวีปจำเดิมแต่นั้นมา พระโพธิสัตว์ก็ให้ตั้งศาลาโรงทาน ๖ แห่งพระราชทานแก่ยาจกวณิพกคนกำพร้าอนาถา ทรงบำเพ็ญบุญทั้งหลายมีทานเปนต้น สิ้นพระชนม์แล้วก็ไปเกิดในดุสิตเทวโลก

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สมเด็จพระบรมศาสดาทรงนำธรรมเทศนานี้มาแล้ว จึงตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจะได้เปนมนุษย์อัศจรรย์แต่ในชาตินี้หามิได้ ถึงในชาติก่อนก็เปนมนุษย์