หน้า:พงศาวดาร (หัตถเลขา) - ๒๔๕๕ (๑).djvu/134

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๗๑

ภุกาม พระยาเสือหาญ มิได้ฟังบัญชา กราบถวายบังคมลา แล้วก็ยกพลไปตาม.

ฝ่ายพระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุต เมื่อล่าทัพไปนั้น บัญชาให้พระยาแสนสุรินทรคว่างฟ้า พระยานคร พระยามือไฟ ทั้งสามทัพนี้อยู่รั้งหลัง ครั้นถึงตำบลวารี แลทางนั้นแคบ พระยาแสนสุรินทรคว่างฟ้า พระยานคร พระยามือไฟ แต่งพลทหารซุ่มไว้สองข้างทาง แล้วขยับมาตั้งพลอยู่ทางประมาณ ๓๐ เส้น แต่งม้าไว้คอยยั่วทัพอันไปตาม พระยาภุกามแลพระยาเสือหาญยกไปถึงตำบลวารี มิทันรู้ว่า ทัพใหญ่ตั้งรับอยู่ในที่นั้น เห็นแต่ม้าเท่านั้น ก็ไล่เข้าไป ทัพกรุงศรีสัตนาคนหุตก็ยอพลออกรับปะทะกันจนถึงอาวุธสั้น ฝ่ายทหารชาวล้านช้างอันซุ่มไว้นั้นเห็นได้ที ก็ออกโจมตีกระหนาบ ทัพพระยาภุกามแลพระยาเสือหาญก็แตกฉาน ทัพล้านช้างไล่ฟันแทงพลหงษาวดีตายมากนัก นายม้าผู้ดีตายหลายคน ทัพพระยาภุกาม พระยาเสือหาญ เสียม้าแลเครื่องสาตราวุธเปนอันมาก ก็พ่ายคืนมาเมืองพระพิศณุโลก ครั้นเสร็จการศึก พระยาสีหราชเดโชมิได้ลงไป ก็อยู่ด้วยพระมหาธรรมราชา แต่พระท้ายน้ำหนีลงไปพระนครศรีอยุทธยา.

ถึงณเดือน ๘ ปีขาล ฉศก สมเด็จพระมหาจักรพรรดิพระเจ้าช้างเผือกก็เสด็จทรงพระผนวช ข้าราชการก็บวชโดยเสด็จเปนอันมาก ฝ่ายพระมหาธรรมราชาทราบพระไทยตระหนักว่า สมเด็จพระมหินทราธิราชเจ้าแผ่นดินคิดการทั้งปวงด้วยพระยารามพิดทูลยุยง แลสัญญาแก่พระเจ้าล้านช้างให้ยกมาเอาเมืองพระพิศณุโลก พระองค์ก็ให้มีหนังสือรับสั่งลงไปถึงสมเด็จพระมหินทราธิราชเจ้าแผ่นดินว่า เมืองพิไชยหาเจ้าเมืองมิได้ จะขอพระยารามขึ้นมาเปนพระยาพิไชย สมเด็จ