หน้า:พงศาวดาร (หัตถเลขา) - ๒๔๕๕ (๓).djvu/394

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๔๙

เสียมราฐแล้ว กำลังทำการศึกค้างอยู่ พอได้ข่าวเล่าลือว่าเจ้ากรุงธนบุรีทิวงคต จึงยกกองทัพกลับมา ครั้งที่ ๓ ปีขาน โทศก จุลศักราช ๑๑๓๒ โดยเสด็จเจ้ากรุงธนบุรีไปปราบปรามเจ้าพระฝาง มีไชยชนะ ได้เลื่อนตำแหน่งยศเปนพระยายมราช ว่าที่สมุหนายก เมื่อพระชนมายุได้ ๓๔ พรรษา ครั้งที่ ๔ ปีเถาะ ตรีศก จุลศักราช ๑๑๓๓ พระชนมพรรษา ๓๕ พรรษา ได้เลื่อนตำแหน่งยศเปนเจ้าพระยาจักรี เปนแม่ทัพยกลงไปตีเมืองเขมรพร้อมกับเจ้ากรุงธนบุรีซึ่งเสด็จไปทางทเล ตีได้เมืองบันทายเพ็ชรแลเมืองบาพนม ครั้งที่ ๕ ปีมเมีย จุลศักราช ๑๑๓๖ เปนแม่ทัพน่าของเจ้ากรุงธนบุรียกไปตีเมืองนครเชียงใหม่ ตีได้เมืองเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองลำพูน แล้วเสด็จอยู่จัดการบ้านเมือง ได้เมืองน่านมาเปนข้าขอบขัณฑเสมาอิกเมือง ๑ ครั้งที่ ๖ พม่ายกกองทัพมาตีเมืองราชบุรี ในปีนั้นเสด็จยกกองทัพจากเมืองนครเชียงใหม่ลงมาช่วยทัพหลวง รบพม่าได้ไชยชนะ ครั้งที่ ๗ ปีมแม สับตศก จุลศักราช ๑๑๓๗ พม่ายกมาตีเมืองนครเชียงใหม่ เสด็จเปนแม่ทัพยกขึ้นไปช่วย แต่พม่าทราบข่าวถอยทัพไปเสียก่อน หาได้รบไม่ พออะแซวุ่นกี้ยกทัพพม่าเข้ามาตีหัวเมืองฝ่ายเหนือ จึงเสด็จลงมาตั้งรับกองทัพอะแซวุ่นกี้ที่เมืองพิศณุโลก นับเปนครั้งที่ ๘ ศึกพม่าครั้งนั้นเปนศึกใหญ่ ยกมาหลายทัพหลายทาง ตั้งล้อมเมืองพิศณุโลกไว้ทุกด้าน แต่กองทัพไทยต่อรบป้องกันเมืองเปนสามารถ พม่าเข้าตีหักเอาหลายครั้งก็ไม่ได้เมืองพิศณุโลก จนอะแซวุ่นกี้ แม่ทัพพม่า ขอดูพระองค์ แลสรเสริญพระปรีชาสามารถที่ทรงต่อรบรักษาเมืองในครั้งนั้น ต่อมาพม่าตั้งล้อมเมืองพิศณุโลก