หน้า:พงศาวดาร (หัตถเลขา) - ๒๔๕๕ (๓).djvu/72

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๗

ไหม้เสียบ้าง ยังดีอยู่บ้าง ก็ทรงพระสังเวช ดำริห์จะกระทำปฏิสังขรณ์บำรุงขึ้นให้ปรกติดีดังแต่ก่อน แล้วจะรวบรวมไพร่ฟ้าประชากรแลสมณพราหมณาจารย์เข้ามาอยู่ในพระนครตามเดิม จะเสด็จเข้าตั้งดำรงราชอาณาจักรสืบกระษัตริย์ครอบครองรักษาแผ่นดินต่อไป จะก่อกู้กรุงเทพมหานครศรีอยุทธยาซึ่งถึงกาลประไลยแล้วนั้นให้กลับคืนคงเปนราชธานีดังเก่า ก็เสด็จเข้าประทับแรมอยู่ณพระที่นั่งทรงปืนที่เสด็จออก บรรธมอยู่คืนหนึ่งจึงทรงพระสุบินนิมิตรว่า พระมหากระษัตริย์แต่ก่อนมาขับไล่เสียมิให้อยู่ ครั้นรุ่งเช้าจึงตรัศเล่าพระสุบินให้ขุนนางทั้งปวงฟังแล้วจึงดำรัศว่า เราคิดสังเวชเห็นว่าบ้านเมืองจะร้างรกเปนป่า จะมาช่วยปฏิสังขรณ์ทำนุบำรุงขึ้นให้บริบูรณ์ดีดังเก่า เมื่อเจ้าของเดิมท่านยังหวงแหนอยู่แล้ว เราชวนกันไปสร้างเมืองธนบุรีอยู่เถิด แล้วตรัศสั่งให้เลิกกองทัพกวาดต้อนราษฎรแลสมณพราหณาจารย์ทั้งปวงกับทั้งโบราณขัติยวงษ์ซึ่งยังเหลืออยู่นั้น ก็เสด็จกลับลงมาตั้งอยู่ณเมืองธนบุรี แลให้ไปเที่ยวสืบหาพวกพระญาติพระวงษ์ของพระองค์ซึ่งพลัดพรากกันไป ไปได้มาแต่เมืองลพบุรี รับลงมาณเมืองธนบุรี แล้วให้ปลูกสร้างพระราชวังแลพระตำหนักข้างน่าข้างในใหญ่น้อยทั้งปวงสำเร็จบริบูรณ์.

แผ่นดินสมเด็จพระบรมราชาที่ ๔ (เจ้ากรุงธนบุรี)

ลุศักราช ๑๑๓๐ ปีชวด สำฤทธิศก จึงท้าวพระยาข้าราชการจีนไทยผู้ใหญ่ผู้น้อยทั้งปวงก็ปฤกษาพร้อมกันอัญเชิญเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเปนบรมกระษัตริย์ผ่านพิภพสิมาณกรุงธนบุรี ตั้งขึ้นเปนราชธานี