ในจตุปาริสุทธศีลบมิได้บริบูรณ์ เพราะเหตุหาพระราชาคณะซึ่งทรงพระปริญัติธรรมแลสำมถวิปัศนาจะสั่งสอนบมิได้ จึงมีพระราชโองการสั่งพระศรีภูริปรีชาราชเสนาบดีศรีสาลักษณให้ไปเที่ยวนิมนต์มาประชุมกันณวัดบางว้าใหญ่ ตั้งแต่งขึ้นเปนพระราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อยโดยสมควรแก่คุณานุรูปตามตำแหน่งเหมือนเมื่อครั้งกรุงเก่านั้น แลพระศรีภูริปรีชาก็สืบหาได้พระเถรานุเถรซึ่งเปนพระราชาคณะบ้าง เปนบาเรียนบ้าง เปนอาจารย์ผู้บอกบ้าง แต่ครั้งกรุงเก่านั้น ได้มาหลายรูป[1] ประชุมณวัดบางว้าใหญ่ แล้วปฤกษาพร้อมกันตั้งพระอาจารย์ดีวัดประดู่ รู้คุณธรรมมาก ทั้งแก่พระวัสสาอายุ เปนสมเด็จพระสังฆราช แล้วตั้งพระเถรานุเถรทั้งนั้นเปนพระราชาคณะถานานุกรมผู้ใหญ่ผู้น้อยตามลำดับสมณถานันดรศักดิ์เหมือนอย่างแต่ก่อน ให้อยู่ในพระอารามต่าง ๆ ในจังหวัดกรุงธนบุรี บังคับบัญชาแลสั่งสอนบอกกล่าวฝ่ายคันถธุระแลวิปัศนาธุระแก่พระสงฆ์สามเณรทั้งปวง แล้วทรงพระราชศรัทธาจ้างข้าราชการฝ่ายทหารพลเรือนสร้างพระอุโบสถวิหารแลเสนาศนกุฎีหลายพระอารามมากกว่าสองร้อยหลัง สิ้นพระราชทรัพย์เปนอันมาก แล้วตรัศเผดียงตักเตือนถวายพระราชโอวาทไว้ว่า ขอพระผู้เปนเจ้าทั้งปวงจงตั้งใจปฏิบัติสำรวมรักษาในพระจตุปาริสุทธศีลให้บริสุทธิผ่องใสอย่าให้เศร้าหมอง แม้นผู้เปนเจ้าจะขัดสนด้วยจัตุปัจจัยสิ่งใดนั้น เปนธุระโยมจะรับอุปฐากผู้เปนเจ้าทั้งปวง แม้นถึงจะปราถนามังษะแลรุธิรของโยม โยมก็อาจสามารถจะเชือดเนื้อ
- ↑ เดิมว่า พระองค์