เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๑๐ ก
๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘
ราชกิจจานุเบกษา
(๙)จัดสวัสดิการ การสงเคราะห์และสิทธิประโยชน์อื่นแก่สมาชิกราชบัณฑิตยสภา ทั้งนี้ ตามระเบียบราชบัณฑิตยสภา
(๑๐)ปฏิบัติการอื่นตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานราชบัณฑิตยสภา
มาตรามาตรา ๙ให้แบ่งงานทางวิชาการของราชบัณฑิตยสภาออกเป็นสำนัก ดังนี้
(๑)สำนักธรรมศาสตร์และการเมือง
(๒)สำนักวิทยาศาสตร์
(๓)สำนักศิลปกรรม
การจัดตั้งสำนักขึ้นใหม่ การยุบ การรวม การเปลี่ยนชื่อ หรือการแยกสำนัก ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
มาตรา๑๐การกำหนดประเภทวิชาในแต่ละสำนัก และการแบ่งประเภทวิชาออกเป็นสาขาวิชาให้ทำเป็นข้อบังคับราชบัณฑิตยสภา
มาตรา๑๑ข้อบังคับราชบัณฑิตยสภาให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
สมาชิก
มาตรา๑๒ราชบัณฑิตยสภามีสมาชิก ๓ ประเภท คือ
(๑)ภาคีสมาชิก
(๒)ราชบัณฑิต
(๓)ราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์
มาตรา๑๓ภาคีสมาชิก ได้แก่ บุคคลผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๔ และมีคุณวุฒิตามมาตรา ๑๕ ซึ่งสมัครเข้าเป็นภาคีสมาชิกของสำนักใดสำนักหนึ่งตามข้อบังคับราชบัณฑิตยสภาและสำนักนั้นได้มีมติรับเป็นภาคีสมาชิกแล้ว
มาตรา๑๔ผู้สมัครเป็นภาคีสมาชิกต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
(๑)มีสัญชาติไทย
(๒)มีอายุไม่ต่ำกว่าสามสิบห้าปีบริบูรณ์
(๓)ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(๔)ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(๕)ไม่มีความประพฤติเสื่อมเสียอย่างร้ายแรง
มาตรา๑๕ผู้สมัครเป็นภาคีสมาชิกต้องมีคุณวุฒิเป็นผู้ที่มีความรู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาใดวิชาหนึ่งโดยได้รับปริญญา ประกาศนียบัตร หรือตำแหน่งทางวิชาการไม่ต่ำกว่าที่กำหนดไว้ในข้อบังคับราชบัณฑิตยสภา และได้ใช้คุณวุฒิแสดงความสามารถอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้