มาตรา ๔๐ พระราชบัญญัตินี้จะควรใช้ในศาลหัวเมืองมณฑลใดตั้งแต่เมื่อใด จะได้โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา แลให้เจ้ากระทรวงมีสารตราบังคับไปยังหัวเมืองมณฑลนั้น ๆ แต่หัวเมืองมณฑลใดที่ยังไม่ได้โปรดเกล้าฯ ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้ ให้คงปฏิบัติไปตามเดิมก่อน
พระราชบัญญัตินี้ตราไว้แต่วันที่ ๒๗ เมษายน รัตนโกสินทร์ศ๒ก๙ ๑๑๕ เปนวันที่ ๑๐๐๓๐ ในรัชกาลปัตยุบันนี้
วันที่ ๒๙ เมษายน รัตนโกสินทร์ศ๒ก๙ ๑๑๕ เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระที่นั่งจักกรีมหาปราสาทองค์เบื้องบุรพทิศ เจ้าพนักงานกระทรวงว่าการต่างประเทศแลกระทรวงวังนำเซนยอร์ โยเสมาเรีย เดอซูซา ฮอร์ตา เอคอสตา อรรคราชทูตวิเศษผู้มีอำนาจเต็มของพระเจ้ากรุงโปรตุคอล ๑ เซนยอร์ อันโตนิโอ โยกิม บัสโต เลขานุการ ๑ เลบเตเนนต์ อันโตนิโอ ปินเยโร ซิลวาโน ผู้ช่วย ๑ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระราชสาสน์ของพระเจ้ากรุงโปรตุคอลซึ่งทรงเรียกอรรคราชทูตวิเศษสำหรับกรุงสยามคนก่อนกลับ แลถวายพระราชสาสน์ทรงตั้งให้ท่านอรรคราชทูตวิเศษผู้นี้เปนอรรคราชทูตสำหรับกรุงสยามสืบต่อไป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสด้วยตามสมควรแล้ว ท่านทั้งสามนั้นกลับจากที่เฝ้า
ในการนี้ มีกองทหารแต่งเต็มยศยืนแถวตามธรรมเนียม
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกขุนนาง ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสัญญาบัตรแก่ข้าราชการ มีรายนามรายวันดังแจ้งต่อไปนี้
วันที่ ๒๘ เมษายน รัตนโกสินทร์ศ๒ก๙ ๑๑๕
๑ ให้ขุนมหาวิสูตรเปนหลวงนรินทราภรณ์ เจ้ากรมช่างทอง คงถือศักดินา ๖๐๐
๒ ให้นายฉาย มหาดเล็ก บุตรหลวงมลโยธานุโยค เปนขุนราชรถยาน ปลัดกรมรถ ถือศักดินา ๖๐๐
๓ ให้นายมงคล มหาดเล็ก บุตรพระยาราชโยธา เปนจ่าใจสุรแกว่น กรมพระตำรวจใหญ่ขวา ฝ่ายพระราชวังบวร ถือศักดินา ๔๐๐
วันที่ ๓๐ เมษายน รัตนโกสินทร์ศ๒ก๙ ๑๑๕
ให้หลวงวิชิตชลไชย ผู้ช่วยราชการเมืองสมุทรสงคราม เปนหลวงวิชิตสุร(ต้นฉบับตรงนี้อ่านไม่ออก) มีตำแหน่งราชการในกระทรวงมหาดไทย ถือศักดินา ๖๐๐
วันที่ ๒ พฤษภาคม รัตนโกสินทร์ศ๒ก๙ ๑๑๕
ให้พระโทรเลขธุรการีเปนพระบริรักษจตุรงค์ มีตำแหน่งราชการในกระทรวงกระลาโหม ถือศักดินา ๘๐๐