หน้า:พรบ วิอ ๑๑๕.pdf/5

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๖๐
เล่ม ๑๓
ราชกิจจานุเบกษา

แลไม่ได้ให้การยกเหตุผลขึ้นแก้ตัวต่อสู้คำฟ้อง ฤๅไม่ได้ให้การยกเหตุขอความกรุณาเพื่อให้ศาลลดหย่อนผ่อนโทษมากให้น้อยลง ในการที่ตนกระทำผิดล่วงลเมิดกฎหมายแล้ว ก็ให้ศาลตัดสินลงโทษจำเลยตามพระราชกำหนดกฎหมายเสียทีเดียว



มาตรา๑๒ถ้าจำเลยไม่ให้การ ฤๅให้การปฏิเสธคำฟ้องแล้ว ก็ให้ศาลถามซักไซ้ไล่เลียงจำเลยตามคำฟ้องก่อน แล้วให้สืบพยานฝ่ายโจทย์หมดแล้ว ถ้าฝ่ายจำเลยมีพยาน ก็ให้สืบพยานฝ่ายจำเลยต่อไป



มาตรา๑๓ศาลต้องยอมให้จำเลยมีโอกาสให้การแก้ตามคำฟ้องได้โดยเต็มทุกประการ แลให้จำเลยซักถามพยานคนใดคนหนึ่งซึ่งต้องอ้างมาให้การยืนยันเอาจำเลยได้ทุกคน



มาตรา๑๔บรรดาพยานทุกคนจะต้องให้การแยกกันเรียงตัวกันไปทีละคนโดยลำดับ ให้ผู้พิพากษาวินิจฉัยดูว่า ควรจะเรียกพยานคนใดมาให้การก่อนแลหลัง สุดแต่จะเห็นสมควร


มาตรา๑๕ข้อบังคับสำหรับการสืบพยานดังมีอยู่ในพระราชบัญญัติลักษณพยาน ลงวันที่ ๒๒ มกราคม ร,ศ, ๑๑๓ นั้น ให้เอามาใช้ในการสืบพยานในกระบวนพิจารณาความอาญาซึ่งมีโทษหลวงได้ทุกประการ



มาตรา๑๖เมื่อพยานให้การเสร็จแล้ว จำเลยจะร้องขอให้พยานบางคนออกไปอยู่เสียภายนอกศาล แล้วขอไห้พยานคนหนึ่งฤๅหลายคนมาให้การอีกครั้งหนึ่ง คือ ให้การแยกกันทีละคน ฤๅให้มาให้การยันปากต่อกัน ก็ให้ศาลยอมอนุญาต ฝ่ายผู้พิพากษาจะสั่งให้ถามพยานดังนี้บ้างก็ได้ ฤๅฝ่ายโจทย์จะร้องขอถามพยานดังนี้บ้าง ก็ให้ศาลอนุญาตเหมือนกัน



มาตรา๑๗ในคดีเรื่องใดเรื่องหนึ่งซึ่งมีจำเลยต้องฟ้องหลายคนแล้ว ก็ให้ผู้พิพากษาพิเคราะห์ดูว่า ควรพิจารณาข้อหาในฟ้องซึ่งกล่าวโทษจำเลยคนใดก่อนคนใดหลัง สุดแต่จะเห็นสมควร



มาตรา๑๘ถ้าคดีเรื่องใดศาลได้ตั้งต้น