หน้า:พรบ อั้งยี่ ๑๑๖.pdf/3

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
เล่ม ๑๔
น่า ๓๘๑
ราชกิจจานุเบกษา

บังคับให้ลงทเบียนตามมาตรา ๓ ของพระราชบัญญัตินี้ โดยมีมาได้ทุกเวลา แลไต่ถามได้ทุก ๆ คนที่ต้องเรียกมานั้น ให้แจ้งความโดยลเอียดในกิจธุระของพวกที่เปนหมู่เปนซ่องนั้น ๆ บรรดาผู้เปนหัวน่านายใหญ่นายรอง แลผู้ทำการต่าง ๆ แลสมาชิก ที่ต้องเรียกนั้น จำเปนต้องมา แลต้องแจ้งความโดยเลอียด ถ้าผู้ใดฝ่าฝืนข้อบังคับนี้ พิจารณาเปนสัตย ให้ปรับเงินไม่เกินกว่า ๕๐๐ บาท ฤๅจำคุกมีกพหนดไม่เกินกว่าปีหนึ่ง ฤๅทั้งจำคุกแลปรับเปนพิไนยด้วยทั้งสองสถาน

มาตราถ้าเจ้าพนักงานผู้จดทเบียนเห็นสมควร ก็มีอำนาจที่จะเรียกผู้หนึ่งผู้ใดซึ่งได้จดชื่อไว้ในทเบียนแล้วก็ดี ฤๅที่ขอจดชื่อในทเบียนเปนหัวน่านายใหญ่นายรองฤๅผู้ทำการต่าง ๆ ในหมู่ในซ่องใด ๆ ก็ดี ที่ได้จดทเบียนไว้ก็ดี ฤๅจะจดก็ดี ให้ทำทานบนว่า จะไม่กระทำผิดพระราชบัญญัตินี้ แลให้มีประกันสองคน คิดเปนเงินสำหรับที่จะเสียค่าปรับ มีจำนวนมากน้อยตามแต่เจ้าพนักงานจะเห็นสมควร แต่รวมเงินไม่เกินกว่า ๔๐๐๐ บาท

มาตราถ้าหมู่ซ่องใด ๆ ไม่ได้ประพฤติการตามน่าที่อันสมควรแก่พวกนั้นก็ดี ฤๅตั้งพวกขึ้น ฤๅตั้งเปนพวกอยู่ เพื่อจะกระทำการที่ไม่ชอบด้วยพระราชกำหนดกฎหมายก็ดี เจ้าพนักงานจะไม่ได้จดทเบียน ฤๅถ้าได้จดทเบียน

แล้ว จะถอนเสียไม่ให้มีอยู่ในทเบียนต่อไปก็ได้

มาตราหมู่ซ่องใด ๆ ที่ไม่ได้จดทเบียนก็ดี ฤๅได้จดทเบียนไว้แล้ว ภายหลังต้องถอนเสียจากทเบียนก็ดี หมู่ซ่องนั้น ๆ ต้องนับว่า เปนพวกซึ่งตั้งอยู่โดยผิดด้วยกฎหมาย

มาตราถ้าหมู่ใดซ่องใดไม่ได้มาขอจดทเบียนเสียภายในกำหนดเดือนหนึ่งนับแต่วันที่ได้ออกประกาศใช้พระราชบัญญัตินี้สืบไป ต้องถือว่า หมู่นั้นซ่องนั้นได้ตั้งอยู่ผิดด้วยกฎหมาย

มาตราการชุมนุมกันตั้งแต่ ๕ คน ฤๅมากกว่า ๕ คนขึ้นไป ต้องถือว่า เปนการชุมนุมกันผิดต่อกฎหมาย ในเวลาที่มีเหตุการดังกล่าวต่อไปในข้อความเหล่านี้ คือ

ข้อเมื่อคนที่ชุมนุมกันนั้นเปนพวกในหมู่ในซ่องที่ตั้งขึ้นโดยผิดต่อกฎหมาย

ข้อเมื่อควมมุ่งหมายของคนผู้ที่ชุมนุมกันนั้นเปนประการหนึ่งประการใดใน ๓ ประการนี้ คือ

ประการที่เพื่อที่จะขัดขวางฤๅต่อสู้การทั้งปวงที่ข้าราชการฤๅเจ้าพนักงานกระทำตามกฎหมาย

ประการที่เพื่อจะกระทำการทุจริตต่าง ๆ ให้เปนที่เดือดร้อนแก่อณาประชาราษฎร ฤๅจะกระทำร้ายอื่น ๆ ซึ่งเปนข้อลเมิดมีโทษหลวงตามกฎหมาย