หน้า:พระประวัติสมเด็จพระนเรศวรฯ - ดำรง - ๒๔๙๓.pdf/196

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๘๒

เอาเปรียบเชิงศึก นึกจะจู่เอาชัย จึงให้ราโชรส นามปรากฏกะยอชวา ผู้มหาอุปราช ยาตรพยุหเสนางค์ มาโดยทางกาญจนบุรี ในเดือนยี่ศกนั้น ครั้นพระบาทปรเมศร์ องค์พระนเรศร์เป็นเจ้า ทรงทราบเค้าคดีศึก ยกสอึกมาชิงชัย จึงเสด็จไปต่อสู้ รบศัตรูแตกพ่าย จับได้นายเสนา มีพญาพสิมเป็นต้น ณตำบลจรเข้สามพัน อุปราชนั้นหนีได้ ม่านเสียชัยครั้งนั้น พลันเป็นเหตุร้อนเร่า แก่พระเจ้าหงษา เกรงบรรดาประเทศราช จะเอื้อมอาตม์เอาอิสสระ จึงมานะมุ่งหมาย จะทำลายเมืองไทย ให้เห็นเป็นตัวอย่าง รอช่องว่างปีหนึ่ง ถึงมโรงจัตวาศก ตกจุลศักราชเก้าร้อย เศษสร้อยห้าสิบสี่ มีรับสั่งให้เกณฑ์ทัพ ไทยใหญ่กับมอญพม่า ให้อุปราชาเป็นใหญ่ มาชิงชัยอีกครั้ง กำลังพลมากมาย หลายเท่ายิ่งกว่าไทย เดินพลไกรทางเก่า เข้าทางกาญจนบุรี มาตั้งที่ชุมนุมพล ณตำบลตะพังกรุ สุพรรณนครเขตร์สถาน ฝ่ายภูบาลพระนเรศร์ เมื่อทราบเหตุศึกใหญ่ ไพรีชาวหงษา ยกเข้ามาครั้งนั้น จึงจัดสรรค์ทัพหลวง ทั่วกระทรวงสรรพเสร็จ เสด็จจากราชธานี กับองค์ศรีอนุชา พระเอกาทศรถ ชุมนุมหมดหมู่พล ณตำบลมะม่วงหวาน เบิกโขลนทวารเดินทัพ ไปรบรับปัจจามิตร เมื่อวันอาทิตย์เดือนยี่ ขึ้นดิถีเก้าค่ำ ดำเนินพลไปสุพรรณ ตั้งทัพขันธ์ณค่าย หนองสาหร่ายที่มั่น ครั้นวันจันทร์แรมสองค่ำ ได้ทรงทำยุทธ