หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๗๔

จากเมืองพระพิศณุโลกไปประทับยังเมืองนครสวรรค์ จึงสมเด็จพระมหินทราธิราชกราบทูลสมเด็จพระราชบิดาว่า เมืองกำแพงเพ็ชรเปนทางศึกกำลังศึก จะขอทำลายเมืองกำแพงเพชร กวาดเทเอาครอบครัวอพยพลงไปไว้ณกรุงพระมหานครศรีอยุทธยา ถึงศึกมีมา ก็จะได้หย่อนกำลังลง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ตรัศเห็นด้วย ทัพหลวงก็ตั้งยั้งอยู่ณเมืองนครสวรรค์ สมเด็จพระมหินทราธิราชก็ยกกองทัพขึ้นไปยังเมืองกำแพงเพ็ชร ทัพหลวงตั้งค่ายท้ายเมือง พระยาศรีเปนกองน่า เข้าตั้งค่ายแทบคูเมือง.

 ฝ่ายขุนอินทเสนา แลขุนต่างใจ ข้าหลวงซึ่งตั้งไปแต่พระพิศณุโลกนั้น แต่รู้ข่าว ก็ตรวจจัดรี้พลแต่งกันเมืองกำแพงเพ็ชรเปนสามารถ ครั้งกองทัพเข้าตั้งแทบคูเมือง ก็แต่งพลทหารออกหักค่ายพระยาศรี ๆ ก็พ่ายแก่ชาวเมืองกำแพงเพ็ชร จึงพระยาศรีก็แต่งการที่จะปล้นเมืองกำแพงเพ็ชร ก็จัดชาวอาสาในหมวดพันตรีไชยศักดิพันหนึ่ง แต่งการสรรพ ก็ยกเข้าปล้นเมืองในเพลากลางคืน เมื่อแรกยกเข้าไปนั้น ชาวในเมืองสงบอยู่ ละให้เข้าไปถึงเชิงกำแพง แล้วก็วางปืนไฟแลพุ่งสาตราวุธมาต้องชาวอาสา ๆ ก็พ่ายออกมา แต่ยกเข้าปล้นเมืองถึงสามวัน รี้พลตายมาก เห็นจะเอาเมืองมิได้ สมเด็จพระมหินทราธิราชเจ้าก็เลิกทัพหลวงคืนลงมายังนครสวรรค์ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิพระเจ้าช้างเผือก แลสมเด็จพระมหินทราธิราชเจ้า ก็เสด็จลงมายังพระมหานครศรีอยุทธยา.

 ส่วนพระยารามอยู่แต่งการซึ่งจะกันพระนคร แลในน่าที่กำแพงรอบพระนครนั้น ให้แต่งป้อมเพ็ชรแลหอรบระยะไกลกันแต่เส้นหนึ่ง วางปืนใหญ่ไว้ระยะแต่สิบวา ปืนบะเหรี่ยมจ่ารงค์มณฑกระยะไกลกันแต่