หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๘๒

เอาแต่ช้างตัวหนึ่ง คนขี่ท้ายกลาง ไปด้วย กว่านั้นอย่าให้เอาไป พระเจ้าหงษาวดีก็ขับพระมหาอุปราชาเสีย แล้วก็ให้ลงโทษแก่พระยาเกียรติ์ถึงสิ้นชีวิตร พระมหาอุปราชากลับมายังทัพ สมเด็จพระเจ้าหงษาวดีก็ใช้สนองพระโอฐมาขับพระมหาอุปราชาให้ไปจากทัพจงพลัน ขณะนั้น พระเจ้าแปร พระเจ้าอังวะ กลัวอาชญาพระเจ้าหงษาวดี มิอาจทูลขอโทษพระมหาอุปราชาได้ พระมหาอุปราชาก็ให้มาทูลแก่พระมหาธรรมราชาว่า สมเด็จพระราชบิดาทรงพระโกรธ ให้ขับเราเสียจากทัพ แลพระเจ้าแปร พระเจ้าอังวะ จะทูลขอโทษนั้นพ้นกำลัง ทูลมิได้ แลซึ่งจะช่วยเราครานี้ เห็นแต่พระเจ้าพี่เราพอจะทูลขอโทษเราได้ เมื่อพระมหาอุปราชาให้มาทูลแก่พระมหาธรรมราชานั้น พระเจ้าหงษาวดีใช้สนองพระโอฐมาเล่า ว่า ให้พระมหาอุปราชาเร่งไปจงพลัน พระมหาอุปราชากลัวพระราชอาชญา ก็แต่งตัวขึ้นช้างไปจากทัพ จึงพระมหาธรรมราชาตรัศให้ข้าหลวงไปห้ามพระมหาอุปราชาว่า ให้งดอยู่ เราจะไปทูลขอโทษก่อน พระมหาธรรมราชาก็เสด็จมาเฝ้า ทูลขอโทษพระมหาอุปราชา พระเจ้าหงษาวดีก็โปรดยกโทษให้.

 ขณะนั้น พระเจ้าหงษาวดีให้พระเจ้าแปรยกทัพเรือลงไปโดยคลองสพานขายเข้า ไปออกบางไทร เลี้ยวขึ้นมาตั้งท้ายคู กันมิให้เรือขึ้นล่องเข้าออกได้ แล้วพระเจ้าแปรก็แบ่งทัพเรือลงไปลาดถึงเมืองนนทบุรี เมืองธนบุรี เมืองสาครบุรี.

 ขณะนั้น สำเภาจีนจังจิ๋วมิทันรู้ว่า ศึกเมืองหงษาวดีมาล้อมพระนคร ก็ใช้ใบเข้ามาถึงหลังเต๋า พระเจ้าแปรรู้ก็ยกทัพเรือออกไป จะเอาสำเภาจีนจังจิ๋ว ๆ รู้ว่า ศึกมาล้อมพระนคร แต่งทัพเรือลงมาลาด จีนจังจิ๋ว