หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๘๕

พระยารามก็สลดใจ จะบังคับบัญชาการศึกมิได้เปนสิทธิดุจก่อน ก็คิดด้วยท้าวพระยามุขมนตรีทั้งหลายว่า จะป้องกันสืบไป เห็นพ้นกำลัง แลจะแต่งออกไปให้เจรจาเปนไมตรี ท้าวพระยามุขมนตรีทั้งหลายก็ว่า ซึ่งจะเปนไมตรีไซ้ แต่ยังมิได้รบกันเปนสามารถ แลซึ่งได้รบพุ่งจนพระเจ้าหงษาวดีเสียรี้พลเปนอันมากดังนี้แล้ว พระเจ้าหงษาวดียังจะรับเปนไมตรีฤๅ ท้าวพระยาทั้งหลายก็มิลงด้วยพระยาราม แต่นั้นมา ท้าวพระยามุขมนตรีลูกขุนทหารทั้งปวงมิฟังบังคับบัญชาพระยาราม ต่างคนต่างรบพุ่งข้าศึก สมเด็จพระมหินทราธิราชพระเจ้าแผ่นดินก็มิเอาพระไทยลงในการสงคราม ละให้แต่มุขมนตรีทั้งหลายรบพุ่ง.

 ขณะนั้น พระมหาเทพถือพลอาสาอยู่รักษาน่าค่ายมุมเกาะแก้วที่กำแพงทลายนั้น ข้าศึกหงษาวดียกเข้ามาปล้นค่ายเปนหลายครั้ง แลพระมหาเทพก็รบป้องกันไว้ ข้าศึกหักเข้าไม่ได้ อนึ่ง พระเจ้าลูกเธอ พระศรีเสาวราช เสด็จมายืนช้างพระที่นั่ง ให้พลอาสาช่วยพระมหาเทพรบแลแต่งทหารอาสาออกทลวงฟัน แล้วก็วางปืนใหญ่ยิงทะแยงออกไป ต้องพลหงษาวดีตายเปนอันมาก ข้าศึกจะปล้นเอาค่ายนั้นมิได้ ก็ตั้งประชิดกันอยู่.

 ฝ่ายพระเจ้าหงษาวดีทรงพระดำริห์ว่า กรุงพระมหานครศรีอยุทธยานี้ป้องกันเมืองเปนสามารถ ซึ่งจะหักเอาโดยง่ายนั้นยาก แล้วก็จวนเทศกาลฟ้าฝน จะลำบากไพร่พลนัก ก็ตรัศด้วยพระมหาธรรมราชาว่า จำเราจะเพโทบายให้ถือหนังสือเอาตัวพระยารามผู้เปนเจ้าการป้องกันพระนครนั้นได้แล้ว ก็จะเบามือลง เห็นจะได้เมืองถ่ายเดียว พระมหาธรรมราชาเห็นด้วย ก็แต่งนายก้องทองข้าหลวงเดิมให้ถือหนังสือ