หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๘๗

ฝ่ายท้าวพระยามุขมนตรีทั้งหลายมิได้รู้กลพระเจ้าหงษาวดี สำคัญว่าจริง ก็พร้อมกันทูลสมเด็จพระมหินทราธิราชเจ้าแผ่นดินให้ส่งพระยารามออกไปแก่พระเจ้าหงษาวดี สมเด็จพระเจ้ามหินทราธิราชเจ้าแผ่นดินจึงตรัศสั่งนายก้อนทองให้ออกไปทูลแก่พระมหาธรรมราชาว่า จะส่งพระยารามออกไป กำหนดให้มารับ ครั้นนายก้อนทองไปแล้ว พระเจ้าแผ่นดินให้จำพระยาราม แต่งคนคุมออกไปส่ง อาราธนาพระสังฆราชกับภิกษุสี่องค์ออกไปด้วย ครั้นพระสังฆราชแลผู้คุมคุมพระยารามไปถึง สมเด็จพระมหาธรรมราชาให้ถอดจำพระยารามออก แล้วก็พาเข้าไปถวายบังคมพระเจ้าหงษาวดี ๆ ก็ให้เบิกพระสังฆราชเข้ามา แล้วตรัศให้หาพระมหาอุปราชาแลท้าวพระยาผู้ใหญ่ทั้งปวงมาประชุมในน่าพลับพลา พระเจ้าหงษาวดีก็ตรัศแก่ท้าวพระยาทั้งหลายว่า พระเจ้ากรุงพระมหานครศรีอยุทธยาให้พระสังฆราชเอาพระยารามผู้ก่อเหตุมาส่งแก่เรา แลว่า จะขอเปนพระราชไมตรีด้วยเราดุจก่อน ท้าวพระยาทั้งหลายจงพิพากษา ยังจะชอบรับเปนพระราชไมตรีฤๅประการใด ท้าวพระยาทั้งหลายก็ทูลว่า ซึ่งได้พระยารามออกมาแล้วดังนี้ เสมอได้แผ่นดินอยุทธยา อันจะเปนพระราชไมตรีนั้นหาต้องการไม่ ขอให้ยกเข้าหักเอากรุงจงได้ พระเจ้าหงษาวดีจึงตรัศว่า เราเปนกระษัตริย์ จะทำการสงครามสืบไป ซึ่งจะทำดังนี้หาควรไม่ แล้วสั่งนายทัพนายกองทั้งปวงให้รักษาแต่มั่นไว้ อย่าให้ประชิดรบพุ่งเข้าไป ฝ่ายชาวพระนครก็มิได้รบ ต่างคนต่างสงบอยู่ทั้งสองฝ่าย จึงพระเจ้าหงษาวดีก็สั่งพระสังฆราชเข้ามาว่า ถ้าพระเจ้ากรุงพระมหานครศรีอยุทธยาจะเปนพระราชไมตรีด้วยเราจริง ให้พระเจ้าแผ่นดินแลท้าวพระยาผู้ใหญ่ทั้งปวง