หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๙๓

ทั้งนี้ไปกราบทูลแก่พระเจ้าหงษาวดี ๆ ยินดีนัก จึงอุบายให้เอาพระยาจักรีมาลงพระราชอาชญาแล้วจำไว้ ให้พม่ามอญลาวคุมอยู่สามสิบคน ครั้นอยู่มาประมาณ ๕ วัน ๖ วัน สมเด็จพระมหาธรรมราชาแต่งคนให้ลอบไปปล่อยพระยาจักรีเข้าไปในกรุงทั้งสังขลิกพันธนาเข้าน่าที่พระยาธารมาตรงวัดศพสวรรค์ในเวลากลางคืน ครั้นรุ่งขึ้น พระเจ้าหงษาวดีทำเปนให้ค้นหาพระยาจักรีทุกกองทัพไม่พบ แล้วก็ให้เอาผู้คุมสามสิบคนไปตระเวนรอบกองทัพแล้วประหารชีวิตเสียบไว้น่าค่ายวัดธารมา ในเพลานั้น พระยาธารมาก็พาตัวพระยาจักรีเข้าไปเฝ้า.

 สมเด็จพระมหินทราธิราชเจ้าแผ่นดินสำคัญว่า พระยาจักรีหนีมาจริง มีความยินดีนัก ก็ให้ถอดเครื่องพันธนาการออก แล้วจึงพระราชทานบำเหน็จรางวัลเปนอันมาก ให้พระยาจักรีบังคับการซึ่งจะป้องกันพระนคร แล้วสมเด็จพระมหินทราธิราชเจ้าแผ่นดินพระราชทานอาชญาสิทธิ์พระยาจักรี ให้แห่เครื่องสูงมีปี่กลองชนะแตรสังข์ประโคมเที่ยวตรวจน่าที่ แลพระยาจักรีนั้นจัดแจงค่ายคูประตูหอรบบำรุงทแกล้วทหารรบพุ่งโดยฉันอันจริงมาได้ประมาณเดือนหนึ่ง แต่นั้นไป เห็นเจ้าน่าที่ผู้ใดรบพุ่งเข้มแขงกล้าหาญ ก็พาลผิดลงโทษว่า ละน่าที่เสีย มิได้เปนใจต่อราชการ แล้วก็เอาพลเรือมาเปนทหาร เอาทหารไปเปนพลเรือน นายทัพนายกองทั้งปวงก็เสียใจ การศึกก็ถอยกำลังลง แล้วให้หนังสือลับกำหนดออกไปว่า ณ วัน ๑๐ ค่ำ ให้ยกเข้ามา ฝ่ายพระเจ้าหงษาวดีแจ้งดังนั้น ก็กำหนดให้ท้าวพระยานายทัพนายกองทหารทั้งปวงซึ่งจะเข้าหักเอาพระนคร แต่งทหารเปนสี่เหล่า ๆ หนึ่งใส่เสื้อดำถือดาบดั้ง เหล่าหนึ่งใส่เสื้อเขียวถือดาบสองมือ เหล่าหนึ่งใส่เสื้อแดง