หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๙๔

ถือปืนนกสับคาบชุด เหล่าหนึ่งใส่เสื้อสีม่วงถือหอกทวนดาบสพายแล่ง ให้พระมหาธรรมราชากับพระมหาอุปราชาถือพลทั้งนี้ยกเข้าโดยถนนเกาะแก้ว แลพระเจ้าอังวะ พระเจ้าแปร ยกเข้าตามน่าที่พร้อมกันทั้งสามถนน เจ้าน่าที่ก็สาดปืนไฟแหลนหลาวมาต้องพลทหารหงษาวดีล้มตายเปนอันมาก พลข้าศึกก็มิได้ถอย เยียดยัดหนุนเนื่องกันเข้าไปมิได้ขาด เสียงพลเสียงปืนดังแผ่นดินจะไหว แลกองทัพพระมหาธรรมราชา พระมหาอุปราชา โจมตีหักเข้าไปได้ค่ายพระมหาเทพ ๆ แตกถอยเข้าไปตั้งรับอยู่ตำบลน่าวัดโควัดกระบือ แล้วก็แตกเข้ามาตั้งรับตำบลวัดเผาเข้า ก็ซ้ำแตกกระจัดพลัดพรายคุมกันไม่ติด ศึกก็เข้าเมืองได้ เมื่อเสียกรุงพระมหานครแก่พระเจ้าหงษาวดีนั้น ณวัน ๑๑ ค่ำ ศักราช ๙๑๘ ปีมโรง อัฐศก เพลาเช้า สามนาฬิกา.

 ขณะนั้น พระมหาอุปราชากับสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชเจ้าก็เสด็จเข้ามายืนช้างพระที่นั่งน่าพระราชวัง จึงสมเด็จพระมหินทราธิราชเจ้าแผ่นดินก็เสด็จด้วยพระราชยานออกไปยังพระมหาธรรมราชาธิราชเจ้า จึงพระมหาอุปราชก็ให้รับสมเด็จพระมหินทราธิราชเจ้าแผ่นดินออกไปถวายสมเด็จพระเจ้าหงษาวดีณพลับพลาวัดมเหยงคณ์ สมเด็จพระเจ้าหงษาวดีทอดพระเนตรเห็น จึงตอบพระหัดถ์ลงที่ราชาอาศน์ แล้วตรัศเชิญเสด็จพระมหินทราธิราชให้เข้ามานั่ง สมเด็จพระมหินทราธิราชเจ้าก็คลานเข้าไปตามรับสั่ง แต่ทว่าหาถึงที่ตบพระหัดถ์ไม่ สมเด็จพระเจ้าหงษาวดีจึงยกพานพระศรีเลื่อนมาให้สมเด็จพระมหินทราธิราชเจ้าเสวย สมเด็จพระมหินทราธิราชเจ้ามิได้เสวย พระเจ้าหงษาวดีก็หยิบเอาพระศรีในพานประทานให้ สมเด็จพระมหินทราธิราชเจ้าก็รับ