หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๙๖

นพรัตนราชธานีบุรีรมย์ เมื่อเสด็จขึ้นเสวยราชสมบัตินั้น พระชนม์ได้ ๕๔ พระพรรษา พระเจ้าหงษาวดีก็ให้พระสุนทรสงครามอันส่งไปหงษาวดีขณะเมื่อครั้งได้พระราเมศวรกับช้างเผือกสี่ช้างไปนั้นอยู่เปนพฤฒามาตย์สำหรับพระองค์ แลไว้เมืองนครพรหมแลพลสามพันให้อยู่ช่วยรักษาพระนคร สมเด็จพระเจ้าหงษาวดีตรัศแก่สมเด็จพระมหินทราธิราชเจ้าว่า จงจัดพระสนม แลราชบริวาร แลเครื่องราชูประโภคทั้งปวงออกมา จะได้ขึ้นไปด้วยกัน แล้วมีพระราชบัญชาตรัศแก่สมเด็จพระมหาธรรมราชาว่า ให้จัดเครื่องราชปิลันทนาสรรพาภรณ์สำหรับขัติยาธิบดีแลพระสนมราชบริวารส่งให้สมเด็จพระมหินทราธิราชด้วย สมเด็จพระมหาธรรมราชาก็จัดให้ตามรับสั่งทุกประการ แล้วสมเด็จพระเจ้าหงษาวดีก็เสด็จเลิกพลพยุหบาตราทัพกลับไปทางเมืองกำแพงเพ็ชร สมเด็จพระมหินทราธิราชเจ้าก็โดยเสด็จ ครั้นถึงแดนเมืองแครง สมเด็จพระมหินทราธิราชเจ้าทรงพระประชวรหนัก ลักไวทำมูเอาพระอาการมากราบทูลสมเด็จพระเจ้าหงษาวดี ๆ จึงพระราชทานแพทย์ไปรักษา แล้วตรัศคาดโทษแพทย์มาว่า ถ้าสมเด็จพระมหินทราธิราชทิวงคต จะลงโทษถึงสิ้นชีวิตร ครั้นรุ่งขึ้น สมเด็จพระเจ้าหงษาวดีเสด็จมาเยือน จึงตรัศว่า อุส่าห์เสวยยาแลพระกระยาหาร อย่าท้อแท้พระไทย เราจะได้ไปด้วยกัน ครั้นพระราชทานโอวาทดังนั้นแล้ว ก็เสด็จกลับมาพลับพลา สมเด็จพระเจ้าหงษาวดีแต่ประทับแรมอยู่ที่นั้นถึงสิบเอ็จเวน สมเด็จพระมหินทราธิราชเจ้าก็สวรรคต สมเด็จพระเจ้าหงษาวดีทรงพระโกรธ ตรัศให้ลงพระราชอาชญาแก่แพทย์พม่ามอญไทยสิบเอ็จคน แล้วพระราชทานเพลิงเสร็จ ทรงพระกรุณาให้เอาพระอัฐิแลพระ