หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๑๑

เมืองหงษาวดีวันหนึ่ง แล้วตรัศให้พระยาเกียรติ์ พระยาพระราม ลงไปรับ ถ้าพระนเรศวรยกล่วงขึ้นมาแล้ว เราจะยกทัพหลวงออกตีน่า ให้พระยาเกียรติ์ พระยาพระราม เอากองทัพทั้งนี้ตีกระหนาบหลัง จับเอาตัวพระนเรศวรประหารชีวิตรเสียให้จงได้ เมืองหงษาวดีจึงจะเปนอิสรภาพไพศาลกว่าพระนครทั้งปวง พระยาพระราม พระยาเกียรติ์ กราบถวายบังคมลายกไปถึงเมืองแครง ก็ทูลสมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้าว่า พระเจ้าหงษาวดีให้ข้าพระพุทธเจ้าทั้งสองนี้มารับเสด็จขึ้นไป ทูลเท่าดังนั้นแล้ว ก็ถวายบังคมลาไปนมัสการพระมหาเถรคันฉ่องผู้เปนอาจารย์ แจ้งความซึ่งพระเจ้าหงษาวดีคิดทำการทั้งปวงนั้นให้พระมหาเถรคันฉ่องฟังทุกประการ พระมหาเถรคันฉ่องแจ้งดังนั้น มีใจกรุณาแก่สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้า เพื่อว่าหาความผิดมิได้ อนึ่ง ด้วยพระราชกฤษฎาภินิหารบารมีสมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้าจะได้บำรุงพระบวรพุทธศาสนาอาราประชาราษฎรให้ถาวรวัฒนาการสืบไป ครั้นเพลาค่ำ ก็พาพระยาพระราม พระยาเกียรติ์ เข้าไปเฝ้าสมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้าแล้วถวายพระพรว่า พระยาพระราม พระยาเกียรติ์ นี้ เปนสานุศิษย์รูป มาบอกว่า พระเจ้าหงษาวดีคิดประทุษฐร้ายต่อพระองค์ สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้าแจ้งดังนั้น ก็ตรัศถามพระยาพระราม พระยาเกียรติ์ ว่า เหตุผลประการใด พระเจ้าหงษาวดีจึงคิดจะทำร้ายเรา พระยาพระราม พระยาเกียรติ์ ก็กราบทูลตามความซึ่งพระเจ้าหงษาวดีคิดแลสั่งนั้นถวายทุกประการ สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้าได้ทรงทราบก็น้อยพระไทย คิดอาฆาฎแก่พระเจ้าหงษาวดี จึงตรัศแก่พระมหาเถรคันฉ่องว่า ซึ่งพระผู้เปนเจ้าเมตตาบอกเหตุการแก่ข้าพเจ้าทั้งนี้ พระคุณนั้นหาที่สุดมิได้ อันพระผู้เปน