หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๑๓

ปัจฉิมทิศผ่านพระคชาธารไปโดยบุรพทิศ จึงเสด็จพยุหบาตราทัพออกจากเมืองแครง พระมหาเถรคันฉ่อง พระยาพระราม พระยาเกียรติ์ แลญาติโยม ก็มาโดยเสด็จ ฝ่ายนายทัพนายกองทั้งปวงก็แยกย้ายกันตีครัวต้อนครัวรายทางมาได้ประมาณหมื่นเศษ ครั้นถึงฝั่งแม่น้ำสโตง ก็ให้เที่ยวเก็บเรือหาไม้ผูกพ่วงแพเร่งข้ามครอบครัวรี้พลช้างม้าถึงฟากสิ้นแล้ว ก็ให้เผาเรือทำลายแพเสีย พอพระเจ้าหงษาวดีแจ้ง ก็ให้พระมหาอุปราชาถือพลแสนหนึ่ง สุรกำมาเปนกองน่า ตามมาถึงแม่น้ำสโตงฟากหนึ่ง สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้าทอดพระเนตรเห็นดังนั้น ก็ให้นายทัพนายกองนำพระมหาเถรคันฉ่องกับครอบครัวรีบยกไปก่อน แต่พระองค์กับทหารลำลองหมื่นห้าพันนั้นยังรออยู่ริมฝั่ง จึงทอดพระเนตรไปเห็นสุรกำมากองน่าใส่เสื้อแดงยืนช้างอยู่ริมฝั่ง ตรัศให้ทหารเอาปืนหามแล่นแลนกสับคาบชุดยิงรดมไป ทหารก็ยิงรดมไปเปนอันมากก็มิได้ถึง จึงสมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้าก็ทรงพระแสงปืนนกสับยาวเก้าคืบยิงไปต้องสุรกำมาตายตกจากฅอช้าง รี้พลมอญทั้งนั้นเห็นอัศจรรย์ ด้วยแม่น้ำนั้นกว้างเหลือกำลังปืน กลัวพระเดชเดชานุภาพ แลพระมหาอุปราชมิอาจจะตามมา ก็เลิกทัพกลับไป สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้าก็เสด็จยกมาโดยทางเมืองกาญจนบุรี ครั้นถึงพระนครศรีอยุทธยา ก็กราบทูลสร่ายเรื่องยุบลคดีทั้งปวงถวายให้ทราบทุกประการ สมเด็จพระราชบิดาแจ้งดังนั้นก็ตรัศว่า เรามิได้มีสิ่งผิด พระเจ้าหงษาวดีมิได้ตั้งอยู่ในคลองธรรมเสียสัตยานุสัตย์ประพฤติพาลทุจริตอิสสาจารเปนวิสมโลภต่อเราฉนี้ ก็เพราะผลวิบากแห่งสัตวเปนสำหรับการกระลียุค ตั้งแต่นี้ไป มอญกับไทยจะเปนปรปักษ์แก่กัน สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้า