หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๒๐

ปัจจามิตรต่อพระองค์แต่ก่อนนั้น โทษผิดนัก ขอพระองค์จงให้อไภยโทษแก่ข้าพเจ้า บัดนี้ ข้าพระบาทกับท้าวพระยาเสนาบดีมนตรีมุขสมณพราหมณาจารย์ทั้งหลายขอเปนพระราชไมตรีด้วยพระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้าทราบดังนั้น ก็มีพระไทยยินดี พระราชทานทูตานุทูต แล้วดำรัศให้แต่งหนังสือตอบไปเปนใจความว่า ซึ่งพระยาแลวกโมหจิตรแล้วคิดกลับได้มาขอเปนราชไมตรีนั้น เราก็อไภยโทษให้ อันเมืองแลวกโพ้นจะถาวรบริบูรณ์ทั้งสมณพราหมณาจารย์ ไพร่ฟ้าข้าขอบขัณฑเสมากรุงกัมพุชจะเปนศุขานุศุขสืบไป ถึงเดือนแปด ปฐมาสาธ จึงดำรัศให้เมืองศรีภิรมย์ ขุนพศรี หมื่นรามณรงค์ ถือรับสั่งออกไปกับทูตานุทูตเมืองแลวก.

 ครั้นณวัน ๑๑ ค่ำ ปีขาล อัฐศก จึงตรัศให้ส่งครอบครัวไทยใหญ่ซึ่งมาพึ่งพระโพธิสมภารลงไปยังกรุงมหานคร สมเด็จพระราชบิดาก็พระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ไทยใหญ่ทั้งปวง แล้วก็ให้ตั้งบ้านอยู่ตำบลวัดป้อม ครั้นถึงเดือน ๘ ทุติยาสาธ สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้าตรัศให้ขุนอินทรเดชะเปนนายกองทัพพลสามพัน ช้างเครื่องสามสิบ ม้าร้อยหนึ่ง ไปลาดถึงแดนเชียงใหม่ ให้ฟังข่าวคราวเมืองหงษาวดีด้วย ในวันจะยกทัพนั้น พระมหาโพธิใหญ่ในกำแพงสนามน่าวังนั้นหาเหตุการณ์มิได้ กิ่งข้างตวันตกนั้นหักลงกิ่งใหญ่ประมาณสามอ้อน ถึงณวันอาทิตย์ เดือนเก้า แรมห้าค่ำ ขุนอินทรเดชะกลับลงมาถึงเมืองพระพิศณุโลก.