หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๒๓

 พระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวตรัศรู้ข่าวศึกอันยกมาทั้งสองทางนั้น ก็ตรัศให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระนเรศวรเปนเจ้าแลสมเด็จพระเอกาทศรฐเตรียมช้างม้ารี้พลทัพบกทัพเรือไว้สรรพ จึ่งตรัศให้พระยาจักรีศรีองครักษ์สมุหนายกเปนกองทัพเรือ ตรัศให้พระยาพระคลังเปนยุกรบัตร ให้ยกทัพเรือนั้นไปเมืองสุพรรณบุรี ครั้นยกทัพเรือไปถึงเมืองสุพรรณบุรี พระยาพสิมก็ยกทัพออกมารบด้วยกองทัพกรุง ๆ ก็วางปืนใหญ่ขึ้นไปต้องพลข้าศึกล้มตายเปนอันมาก แลทัพพระยาพสิมจะตั้งอยู่มิได้ ก็เลิกออกไปทางราชสิงห์ แลไปตั้งทัพมั่นอยู่ในตำบลเขาพญาแมน.

 ถึงณวัน ค่ำ เวลายามกับสองนาฬิกาเก้าบาท จึงสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชทั้งสองพระองค์เสด็จยกพยุหบาตราทัพจากพระนครศรีอยุทธยาไปโดยชลมารค เสด็จขึ้นเหยียบชิงไชยภูมิตำบลลุมพลี แลให้พระพิไชยสงครามฟันไม้ข่มนาม แล้วเสด็จจากลุมพลีประทับเรือพระที่นั่งณเมืองวิเศษไชยชาญ จึงเสด็จพยุหบาตราทัพขึ้นโดยสถลมารคไปตั้งทัพหลวงณตำบลสามขนอน แลเมื่อตั้งทัพอยู่สามขนอนนั้น ม้าตัวหนึ่งตกลูกเปนสองตัวศีศะเดียวกัน มีเท้าตัวละสี่เท้าชิงศีศะกัน จึงบัญชาสั่งให้เจ้าพระยาศุโขไทยเปนนายกองแลท้าวพระยาพระหัวเมืองทั้งหลายยกช้างม้ารี้พลหมื่นหนึ่งก้าวสลักออกไปตีทัพพระยาพสิมณเขาพญาแมน แลพบทัพน่าข้าศึก ได้รบพุ่งกัน พม่ามอญก็แตกฉานล้มตายเปนอันมาก พระยาพสิมก็เลิกทัพยกหนีไป เจ้าพระยาศุโขไทยแลข้าหลวงยกตามไปถึงกาญจนบุรี จับได้ฉางชวีกับช้างม้ามาถวาย