หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๒๗

แล้วยกเปนกองโจรคอยก้าวสกัดตีโดยทางข้าศึกจะยกออกมาอย่าให้ออกลาดหากินได้สดวก ฝ่ายพระยาแลวกแจ้งข่าวออกไปว่า กองทัพเมืองหงษาวดียกมากระทำแก่พระนครศรีอยุทธยา จึงดำรัศปฤกษาท้าวพระยาเสนามุขมนตรีว่า กรุงกัมพูชาธิบดีกับพระนครศรีอยุทธยาพึ่งเปนทางพระราชไมตรีกัน บัดนี้ มีปัจจามิตรข้าศึก ครั้นจะมิไปช่วย ก็จะเสียทางพระราชไมตรี ก็จะไม่ถาวรวัฒนาสืบไป จำจะให้ยกกองทัพไปช่วย ท้าวพระยาเสนามุขมนตรีทั้งปวงก็เห็นพร้อมด้วย พระยาแลวกก็ให้พระศรีสุพรรณมาธิราชผู้เปนพระอนุชาถือพลหมื่นหนึ่ง ช้างเครื่องร้อยหนึ่ง ม้าสามร้อย ยกเข้ามาช่วยทางด่านเมืองปราจิณบุรี กรมการบอกเข้ามาให้กราบทูลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดำรัศให้หลวงราชเสนา หลวงเสนาภักดี กับขุนพิพิธวาที หมื่นพจนาพิจิตร ออกไปรับพระศรีสุพรรณมาธิราชเข้ามาเฝ้า แล้วตรัศสั่งให้กองทัพเขมรตั้งอยู่ตำบลวัดพระผแนงเชิง ครั้นณวัน ค่ำ พระเจ้าเชียงใหม่ยกทัพบกทัพเรือล่วงลงมาตั้งค่ายมั่นอยู่ตำบลสระเกษ แล้วแต่งให้เจ้าเมืองพเยาคุมทัพม้าพันหนึ่งไปลาดจับคนดูกองทัพจะออกมาตั้งอยู่ตำบลใดบ้าง เจ้าเมืองพเยายกทัพม้ามาถึงสพานขายเข้า ก็เที่ยวเผาบ้านเรือน ฝ่ายสมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้ากับสมเด็จพระอนุชาธิราชทราบดังนั้น ก็เสด็จโดยชลมารคถึงสพานขายเข้า ให้ทหารยกขึ้นไป ได้รบกันถึงตลุมบอน ยิงแทงถูกเจ้าเมืองพเยากับทหารตกม้าตาย ๒๐ คน เจ็บป่วยเปนอันมาก ทัพม้าทั้งนั้นก็แตกถอยไป ได้ม้า ๒๐ ม้า แล้วเสด็จคืนเข้าพระนคร.