หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๓๐

ขึ้นจากพระชลวิมานทั้งสองพระองค์ ทรงสุพรรณรัตนปาทุกาฉลองพระบาท จึงตรัศให้ทหารทั้งปวงขึ้นยอข้าศึก สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้าทรงพระแสงปืนนกสับยิงถูกนายม้าผู้ดีห่มเสื้อสักหลาดลาดแดงขับดาบบั้งทองตกลงจากม้าตาย จึงชาวทหารเข้าตัดศีศะนายม้านั้น ได้ทั้งเสื้อสักหลาดแลดาบบั้งทองกับม้ามาถวาย ฝ่ายข้าศึกอันยกมานั้นก็พ่ายไป ทหารอาสาก็ไล่ฟันแทงขึ้นปะทะทัพพระยาเชียงแสน ๆ เห็นดังนั้นก็ให้แยกพลออกรับตีประดาลงไป ทหารกรุงเห็นเหลือกำลังก็ถอยรอรับลงมา สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้ากับสมเด็จพระอนุชาธิราชเห็นข้าศึกยกใหญ่ออกมาตี ทหารเสียทีจะลงเรือมิทัน จึงเสด็จด้วยเรือพระที่นั่งขึ้นไปเหนือคลองปากโมกน้อย แลขนานเรือพระที่นั่งทั้งสองลำ เสด็จอยู่กันพลเรือรบแลทหารอันอยู่ริมน้ำนั้น ข้าศึกก็วางช้างม้ารี้พลมาถึงริมน้ำ แลได้รบพุ่งกันเปนสามารถ สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้ากับสมเด็จพระอนุชาธิราชทรงพระแสงปืนนกสับยิงต้องข้าศึกตายเปนอันมาก ข้าศึกพุ่งสาตราวุธตกถึงเรือพระที่นั่ง จึงพระบาทสมเด็จพระอนุชาธิราชก็ให้สอดเรือพระที่นั่งเสด็จเข้าไปข้างฝั่งกันเรือพระที่นั่งสมเด็จพระเชษฐาธิราช แล้วดำรัศสั่งให้ยิงปืนใหญ่ในเรือรบเรือไล่ทั้งปวงขึ้นไปต้องช้างม้าข้าศึกแลพลตายเปนอันมาก ข้าศึกทั้งปวงก็พ่ายไป สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้าตรัศแก่สมเด็จพระอนุชาธิราชแลท้าวพระยานายทัพนายกองทั้งปวงว่า พระเจ้าเชียงใหม่ยกทัพแสนลงมาตั้งอยู่ณสระเกษถึงสี่เดือนห้าเดือนแล้ว พึ่งได้เห็นฝีมือกำลังทหารวันนี้ ดีร้ายจะเปนบ้าสงคราม ในสองวันสามวันนี้จะยกมาอิก ถ้ายกลงมา เราจะตีให้ถึงค่ายทีเดียว ตรัศดังนั้นแล้วก็มิได้เสด็จลงมาลุมพลี ตั้งอยู่ณปากโมกน้อย.