หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๓๒

สิบเอ็จทุ่ม สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้ากับสมเด็จพระอนุชาธิราชทรงเครื่องศิริราชปิลันทนาลังการยุทธ สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้าทรงช้างต้นพลายมงคลทวีปเปนพระคชาธาร สมเด็จพระอนุชาธิราชทรงช้างต้นเจ้าพระยาปราบไตรจักรเปนพระคชาธาร พร้อมทั้งช้างดั้งกันแซกแซงล้อมวังพังคาร้อยหนึ่งกับพลทหารสามหมื่น ก็เสด็จพยุหบาตราทัพโดยทางสถลมารควิถี พอแสงทินกรเรื่อเรืองโพยมมาศ ทัพน่าพระเจ้าเชียงใหม่กับพระราชมนูปะทะรบกันตำบลบางแก้ว ทัพหลวงเสด็จถึงตำบลบ้านแห ได้ยินเสียงปืนรบ ก็มิได้ยกหนุนพระราชมนูขึ้นไป ซุ่มทัพอยู่ในป่าจิกป่ากระทุ่มฟากทางตวันตก จึงใช้ให้หมื่นทิพรักษากับม้าเร็วสิบม้าขึ้นสั่งพระราชมนูให้ลาดถอยลงมา ทัพหลวงจะยอกลาง พระราชมนูก็บอกลงมากราบทูลว่า ศึกได้รบติดพันกันอยู่แล้ว ถ้าถอยหลังก็จะแตกฉาน พระราชมนูก็มิได้ถอย สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้าก็ให้หมื่นทิพรักษาขึ้นไปสั่งอิก พระราชมนูก็มิได้ถอย หมื่นทิพรักษากลับลงมากราบทูล ก็ทรงพระโกรธ ตรัศสั่งว่า ให้กลับขึ้นไปอิกครั้งหนึ่ง ถ้ามันยังขัดมิถอย ให้เอาศีศะลงมา หมื่นทิพรักษาก็กลับขึ้นไปแจ้งตามรับสั่ง พระราชมนูแจ้งรับสั่งก็ตกใจ ให้โบกธงฝ่ายซ้ายเปนสำคัญ เจ้าพระยาศุโขไทย ทหารทั้งปวง เห็นดังนั้น ก็ขยายลาดถอยลงมา ฝ่ายทหารเชียงใหม่สำคัญว่าแตก ก็โห่ร้องไล่รุกโจมตีลงมา ทหารม้าก็วางม้า ทหารช้างก็ขับช้าง พระเจ้าเชียงใหม่ดีพระไทย ก็เร่งขับช้างพระที่นั่งตามปนกองน่าลงมามิได้เปนขบวน สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้าเห็นข้าศึกเสียขบวน จึงให้ลั่นฆ้องไชยโบกธงเปนสำคัญ สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้ากับสมเด็จพระอนุชาธิราช