หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๗๔

อยู่หัวทั้งสองพระองค์ทราบดังนั้นก็ตรัศว่า จะไปเล่นตรุศเมืองแลวกสิสงกรานต์ชิงมาก่อนเล่า จำจะยกออกไปเล่นสงกรานต์กับมอญให้สนุกก่อน แล้วกำหนดให้เกณฑ์พลสกรรจ์ลำเครื่องแสนหนึ่ง ช้างเครื่อง ๘๐๐ ม้า ๑๕๐๐ ให้ตั้งพิธีโขลนทวารตัดไม้ข่มนามตำบลลุมพลี ตั้งทัพไชยทุ่งภูเขาทอง.

 ครั้นณวัน ๑๑ ฯ  ค่ำ ได้เพชรฤกษ์อันอุดม สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้าทรงช้างต้นพลายโจมจักรพาฬเปนพระคชาธารสรรพด้วยคชาภรณ์เครื่องมั่น สมเด็จเอกาทศรฐทรงช้างต้นพลายศัตรูพินาศเปนพระคชาธารประดับเครื่องคชาภรณ์ เสด็จยกพยุหแสนยากรทวยหาญ ให้พระยาสีหราชเดโชถือพล ๕๐๐๐ เปนกองน่า ยกไปโดยทางเมืองสุพรรณบุรี ครั้นเสด็จถึงเมืองกาญจนบุรี เสด็จหยุดประทับแรม จึงมีพระราชบริหารดำรัศสั่งพระมหาเทพให้ถือพล ๕๐๐๐ ยกไปตั้งซุ่มอยู่ที่ทางทัพพระเจ้าแปรยกมา ถ้าทัพข้าศึกแตกถอยไป ก็ให้ออกโจมตีซ้ำเติมให้แตกฉานยับเยิน พระมหาเทพก็ยกไปซุ่มอยู่ตามรับสั่ง สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์เสด็จยกพยุหบาตราทัพจากเมืองกาญจนบุรีไปถึงตำบลสังขล่า ก็ตั้งค่ายประชิดแล้วให้ทหารขึ้นไปร้องน่าทัพว่า อ้ายมอญเหล่านี้หาเกรงพระเดชเดชานุภาพไม่ฤๅ ล่วงแดนเข้ามาไย บัดนี้ พระกาลเสด็จมาจะประหารชีวิตรเองทั้งปวงแล้ว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ก็แยกพระคชาธารพร้อมด้วยทแกล้วทหารซ้ายขวาน่าหลังกระโจมตีฆ่าฟันพม่ามอญแตกฉานล้มตายเปนอันมาก พระเจ้าแปรเห็นเหลือกำลังจะทานมิได้ก็รุดหนี ทหารกรุงเทพมหานครศรีอยุทธยาก็ยกตามไป ฝ่ายทัพพระมหาเทพซึ่งไปซุ่มอยู่นั้นเห็นได้ที