หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๗๕

ก็ยกออกโจมตีแทงฟันข้าศึกตายลำบากเกลื่อนไปโดยทางชายป่าชายดงจนพระเจดีย์สามองค์ จับได้มอญแลช้างม้าเครื่องสาตราวุธมาถวายเปนอันมาก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ก็เลิกทัพกลับเข้าพระนคร.

 ครั้นณวัน ค่ำ ก็ปูนบำเหน็จมุขมนตรีนายทัพนายกองทั้งปวงโดยสมควร แล้วมีพระราชบริหารสั่งพระยานครนายก พระยาปราจิณ พระวิเศษเมืองฉเชิงเทรา พระสุระบุรี ๔ หัวเมือง ให้พระยานครนายกเปนแม่กองใหญ่ คุมพลหมื่นหนึ่งออกไปตั้งค่ายขุดคูปลูกยุ้งฉางถ่ายลำเลียงไว้ตำบลทำนบรักษาให้มั่นอย่าให้เสียทีแก่ข้าศึก ฝ่ายพระยานครนายก พระยาปราจิณ พระวิเศษฉเชิงเทรา พระสุระบุรี กราบถวายบังคมลาแล้วก็ไปทำตามพระราชบัญชาสั่ง.

 ฝ่ายพระเจ้าแปร เมื่อแตกหนีมาถึงเมืองหงษาวดี เหลือรี้พลช้างม้าประมาณกึ่งหนึ่ง พระเจ้าหงษาวดีทรงพระพิโรธ ตรัศว่า พระเจ้าแปรล่วงพระราชบริหารให้เสียรี้พลช้างม้าดังนี้ ให้ประหารชีวิตรเสีย ท้าวพระยามุขอำมาตย์ทั้งปวงกราบบังคมทูลขอชีวิตรไว้ พระเจ้าหงษาวดีก็โปรดพระราชทานให้ถอดเสียจากที่ถานาศักดิ์.

 ลุศักราช ๙๕๕ ปีมแม เบญจศก สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้า ครั้นเสร็จการพระราชพิธีอาศวยุชแล้ว มีพระราชบริหารสั่งให้เกณฑ์ทัพเตรียมไว้ แลพลสกรรจ์ลำเครื่องแสนหนึ่ง ช้างเครื่อง ๘๐๐ ม้า ๑๕๐๐ กำหนดเดือนอ้ายจะยกไปตีกรุงกัมพูชาธิบดี ให้เกณฑ์ทัพเมืองนครราชสิมาหมื่นหนึ่ง ยกตีลงทางตะพานทิพ ตะพานแสง ไปเอาเมืองเสียมราบ ตีไปฟากตวันออกตั้งกะพงสวาย แลให้เกณฑ์ทัพเรือเมือง