หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๘๖

รายทางแลได้สำเภาจีนสลุบฝรั่งเครื่องสาตราวุธปืนใหญ่น้อยเสร็จสิ้นทุกประการ.

 พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระโสมนัศ จึงดำริห์การที่จะเข้าหักเมือง แล้วมีพระราชโองการสั่งนายทัพนายกองค่ายล้อมทั้งปวงให้เร่งเดินค่ายประชิเข้าไปให้ใกล้ ห่างเมืองเส้นหนึ่งสามสิบวา ให้ตั้งป้อมพูนดินทั้งสี่มุม ๆ ละสองด้าน เอาปืนใหญ่ทัพเรือขึ้นจังกายิงกวาดตามเชิงเทิน บันดาประตูเมืองนั้นก็ให้ตั้งป้อมเอาปืนใหญ่ขึ้นยิงด้วย น่าที่ใดทหารบางอยู่นั้นให้กองทัพเรือกองทัพเมืองนครราชสิมายกมาบรรจบเร่งทำการให้แล้วพร้อมแต่ในสามวัน ถ้าผู้ใดมิแล้วตามกำหนด จะตัดศีศะเสียบเสีย ฝ่ายนายทัพนายกองกลัวพระราชอาชญา กราบถวายบังคมแล้วก็เร่งทำตามพระราชบัญชาทั้งกลางวันกลางคืน พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวจึงให้แต่งหนังสือว่า หนังสือเราผู้เปนนายกพลากรทหารทัพน่าอันเปนสวามิประวาศบาทมุลิกากรบวรรัตนามาศดุจหนึ่งจักรแก้วอันอยู่ในใต้เบื้องบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวณกรุงเทพทวาราวดีศรีอยุทธยาอันมีพระบุญเดชามากดุจดวงพระทินกรส่องโลก มายังพระเจ้ากรุงกัมพูชาธิบดีซึ่งเปนใหญ่ในกัมพุชประเทศ ด้วยแต่ก่อนกรุงกัมพูชาธิบดีเคยถวายหิรัญสุวรรณมาลาเครื่องราชบรรณาการ สองพระนครก็เปนสุวรรณปัถพีเดียวกัน สมณชีพราหมณอาณาประชาราษฎรก็ได้ความศุขานุศุข เปนไฉนพระเจ้ากรุงกัมพูชาธิบดีมิได้ตั้งอยู่ในสัตยานุสัตย์ คิดอหังการกลับเปนประจามิตรให้เคืองใต้พระบาทยุคล เอาโลหิตมาเปนน้ำล้างดาบทหารไทย จะให้เหลืออยู่แต่น้ำกับฟ้า ป่ากับดิน ดังนี้ก็ดูมิควร บัดนี้ ก็เสด็จพระราชดำเนินมาถึงพระนครแล้ว