หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๘๙

ทั้งสี่ด้านเห็นสำคัญก็ให้โห่ขึ้นพร้อมกัน พระยามหาโยธา พระยาสีหราชเดโช พระยาท้ายน้ำ พระราชมนู ก็ขี่ช้างนำน่ายกทหารเข้าไปจะทำลายประตูเมือง เขมรซึ่งรักษาน่าที่ริมประตูแลรักษาประตูก็ยิงธนูน่าไม้ปืนใหญ่น้อยออกมาทั้งสี่ด้าน พลทหารไทยเจ็บป่วยล้มตายก็มิได้ถอย พระยามหาโยธาก็ขับช้างเข้าไปให้แทงประตูถีบประตูเปนสามารถ พอรุ่งขึ้นณวัน ค่ำ ศักราช ๙๔๖ ปีวอก ฉศก ประตูก็พังลง ทหารไทยก็กรูกันเข้าไปในเมืองได้ ไล่ฆ่าฟันเขมรตายเปนอันมาก เขมรกองกลางทั้งสองชั้นก็มิได้รับ ทิ้งเครื่องสาตราวุธเสีย หนีกระจัดกระจายออกจากเมืองบ้าง ไปหาครอบครัวบ้าง พระราชบุตรนั้นก็หนีไปด้วย จับได้พระยาแลวก กับพระศรีสุพรรณมาธิราช แลญาติประยูรวงษ์สนมกรมในท้าวพระยาพระเขมรครอบครัวพลเมืองเปนอันมาก พลทหารก็คุมเอาพระยาแลวกพันธนาการเข้ามาถวาย สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวแย้มพระโอฐ แล้วมีพระราชโองการตรัศถามพระยาแลวกว่า ท่านเปนกระษัตริย์ขัติยราชดำรงแผ่นดินกรุงกัมพูชาธิบดี มีกุรุราฐเปนแว่นแคว้นขอบขัณฑเสมา ฝ่ายกรุงพระมหานครศรีอยุทธยาก็มีสยามราฐชนบทเปนแว่นแคว้น แลสองพระนครนี้ก็เปนราชธานีใหญ่ ถ้าจะใคร่ได้สมบัติในพระนครศรีอยุทธยาแผ่เสมามณฑลให้กว้างขวาง เหตุไฉนจึงมิยกเปนพยุหโยธาไปกระทำสงครามให้ต้องทำนองขัติยราชรณยุทธเปนที่บำเทิงหฤไทยกระษัตราธิราชแต่ก่อน จึงคอยแต่ข่าวศึกกรุงหงษาวดีมาติดพระนครศรีอยุทธยาครั้งใด ก็มีแต่ยกพลไปพลอยซ้ำเติมตีเอาเมืองชนบทประเทศกวาดเอาอพยพมาเมืองทุกครั้ง ทำศึกดุจกาอันลอบลักฟอง