หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๙๑

ที่นั่งพลาหกสูงสามศอกคืบ พร้อมด้วยม้าเสนางคนิกรโยธาหาญแห่โดยขบวนซ้ายขวาน่าหลัง เสวตรฉัตรบังพระสุริยชุมสายพัดโบกพัชนี มีฆ้องกลองแตรสังข์ประโคมนฤนาท พระบาทเสด็จพระราชดำเนินเข้าไปเลียบพระนคร ครั้นเพลาบ่ายแล้วสองนาฬิกา เสด็จกลับยังค่ายหลวง มีพระราชโองการสั่งเสนาบดีมนตรีมุขทั้งปวงว่า บุตรภรรยาญาติวงษ์พระยาแลวกแลสมัคพรรคพวกครัวอพยพซึ่งจับไว้ได้มากน้อยเท่าใดให้มารวมไว้ ให้นายทัพนายกองหลังคุมล่วงไปก่อนเจ็ดวัน ทัพหลวงจึงจะเลิกไป ท้าวพระยาทั้งหลายรับพระราชโองการแล้ว ก็มาตรวจจัดครัวพระยาแลวกแลไพร่พลในเมืองซึ่งได้ไว้นั้นเปนคนอพยพสามหมื่นเศษ แล้วแต่งกองหลังคุมล่วงไปโดยพระราชบัญชา ครั้นกองทัพซึ่งคุมครอบครัวยกไปได้เจ็ดวันแล้ว ครั้นณวัน ค่ำ เพลาสิบเอ็จทุ่ม ห้าบาท สมเด็จพระบาทบรมนารถบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ทรงเครื่องอลังการ์สรรพาภรณ์บวรวิภูสิตสรรพเสร็จ สมเด็จพระนเรศวรบรมบพิตรเปนเจ้าทรงพังเทพลิลาศ พระบาทสมเด็จเอกาทศรฐทรงพังเทศประภา ผูกพระที่นั่งหลังคาทองทั้งสองช้างราชพาหนะที่นั่งต้น อลงกฎด้วยเครื่องอภิรุมชุมสายพรายพรรณบังรวิวรรณแทรกสลอนสลับ สรรพด้วยโยธาทวยหาญแห่รวดริ้วรยะกรรกง พร้อมเสนางคพยุหดูมหิมาดาดาษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์เสด็จจากกรุงศรียโสธรนครอินทรบรัตกุรุรัฐราชธานี ฝ่ายทัพพระยานครราชสิมาก็เลิกกลับไปโดยทางนครเสียมราบ แต่ทัพเรือนั้นรั้งอยู่สองวัน จึงล่องไปตามชลมารคออกปากน้ำพุทไธมาศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์เสด็จร้อนแรมมาโดยมารควิถีสิ้นแดนกัมพุชประเทศ ทัพ