หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๑ (๒๔๕๕) b.pdf/270

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๑๑

พลมาช่วยการสงคราม เสนาบดีก็บอกข้อราชการไปยังเมืองตองอูแลหัวเมืองทั้งปวงให้ยกมาช่วยป้องกันเมืองเมาะตมะ แลในเมืองหงษาวดีนั้นกะเกณฑ์ไพร่พลรักษาน่าที่เชิงเทินตามธรรมเนียม.

 ฝ่ายพระยาตองอูจึงให้ไปอาราธนาพระมหาเถรเสียมเพรียมเข้ามาเรือน แล้วบอกประพฤดิเหตุให้พระมหาเถรฟังทุกประการ แล้วว่า พระผู้เปนเจ้าช่วยคิดให้โยมด้วย พระมหาเถรได้ฟังหัวเราะแล้วว่า มหาบพิตรกลัวพระนเรศวรหนักอยู่ฤๅ พระยาตองอูจึงว่า พระผู้เปนเจ้าช่วยทำนุบำรุงอยู่แล้ว โยมหากลัวไม่ พระมหาเถรยิ้มแล้วจึงว่า มหาบพิตรอย่าวิตกเลย ซึ่งทัพพระนเรศวรพี่น้องยกมาครานี้อุประมาเหมือนเทพยดาอันจรในจักรราษีมาอุดหนุนให้ชตามหาบพิตร โชคตกทวารลักษณ์จันทร์จะขึ้นนระอยู่แล้ว อย่าช้าเลย จงเร่งยกพลลงไปเมืองหงษาวดี แล้วแต่งม้าใช้ถือหนังสือไปถึงพระยาลาวเจ้าเมืองเมาะตมะว่า ให้เร่งกวาดไพร่พลหัวเมืองซึ่งขึ้นแก่เมืองเมาะตมะเข้าไว้ในเมืองให้มั่นคง แล้วให้ตั้งค่ายคูให้มั่นคง จงช่วยกันเปนใจรบ อย่าให้กองทัพกรุงพระนครศรีอยุทธยาข้ามมาได้ ถ้าศึกหนักแน่นประการใด ให้บอกมา เราจะยกลงไปช่วย แต่บัดนี้ เราจะเข้าไปเฝ้าพระเจ้าหงษาวดีคิดราชการก่อน มหาบพิตรมีหนังสือไปเอาใจเมืองเมาะตมะดังนี้ แล้วจงแต่งม้าเร็ว ๒๐ ม้า ๓๐ ม้าให้ประจำฟังข่าวอยู่นั่น แล้วให้ผลัดเปลี่ยนกันเอาข่าวมาแจ้งจงเนือง ๆ ถ้าศึกไทยกับรามัญยังไม่ติดกันเข้า อย่าเพ่อทำ จะเสียการ ถ้าศึกติดตีกันเข้าเมื่อใดแล้ว ก็ให้ทำการใหญ่เถิด แลเมื่อจะเทเมืองหงษาวดีมาเมืองตองอูนั้น ให้จุดเผาบ้านเรือนเสบียงอาหารในเมืองหงษาวดีให้สิ้น กำลังศึกก็จะถอยลง ถ้าเห็น