หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๑ (๒๔๕๕) b.pdf/274

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๑๕

เอามาถวาย แลได้ช้างม้าเครื่องสรรพายุทธในเมืองเมาะตมะนั้นก็มาก พระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ก็ให้ลงพระราชอาญาแก่พระยาลาว แลไว้แต่ชีวิตร เพราะว่าจะเอามาประจานในกรุงพระมหานคร พระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ก็มีพระราชโองการตรัศให้ข้ามช้างม้าทั้งปวงเสร็จ ถึงณวัน ๑๓ ค่ำ พระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ก็เสด็จด้วยพระชลวิมานข้ามแม่น้ำเมาะลำเลิ่งไปตั้งทัพหลวงในเมาะตมะ.

 ในขณะนั้น สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงตรัศทรงพระโกรธแก่เจ้าพระยาจักรี แลตรัศให้จำคงไว้ณเมืองเมาะลำเลิ่ง แลไว้พระยาธนบุรีนอกราชการแลขุนหมื่นทั้งปวงให้อยู่รั้งเมืองเมาะลำเลิ่งด้วยเจ้าพระยาจักรี แลมีพระราชกำหนดให้ซ่องเอามอญอันซ่านเซนทั้งปวงให้เข้าอยู่ในเมืองเมาะลำเลิ่ง ตรัศให้เจ้าพระยาสวรรคโลก แลพระยาพิไชย พระยากาญจนบุรี แลขุนหมื่นทั้งหลาย อยู่รั้งเมืองเมาะตมะ แลซ่องมอญอันซ่านเซนทั้งปวงเข้าอยู่เมืองเมาะตมะด้วย.

 ถึงณวัน ๑๔ ค่ำ ก็ยกทัพหลวงเสด็จจากเมืองเมาะตมะ ก็เสด็จโดยสถลมารถึงฝั่งน้ำสโตง.

 ฝ่ายพระยาตองอูอยู่ในเมืองหงษาวดี ครั้นได้ยินข่าวว่า ทัพหลวงเสด็จไป พระยาตองอูแต่งให้ม้าประจำเอาข่าวเมืองเมาะตมะ ครั้นรู้ข่าวว่า เสียเมืองเมาะตมะแล้ว พระยาตองอูก็เทเมืองหงษาวดี แลให้เผาเย่าเรือนทั้งปวงเสีย แล้วก็พาพระเจ้าหงษาวดีรุดหนีไปยังเมืองตองอู.