หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๑ (๒๔๕๕) b.pdf/275

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๑๖

 ฝ่ายทัพหลวงไซ้ ครั้นถึงฝั่งแม่น้ำสโตง พระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ตรัศใช้พระมหาเทพเปนนายกองทัพม้า ๒๐๐ ให้ยกไปก่อนทัพหลวง แล้วก็ตรัศใช้พระยาเพ็ชรบุรีให้ยกช้างม้าแลพล ๓๐๐๐ หนุนทัพพระมหาเทพไป จึงยกทัพหลวงข้ามแม่น้ำสโตง แลเสด็จถึงเมืองหงษาวดีในวัน ๑๔ ค่ำ ตั้งทัพหลวงในตำบลสวนหลวง จึงพระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์เสด็จเข้าไปนมัสการพระมุตาวในเมืองหงษาวดี ในขณะนั้น พระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ก็มีพระราชโองการตรัศแก่ท้าวพระยาเสนาบดีมนตรีมุขทั้งหลายว่า พระยาตองอูแต่งทูตานุทูตถือราชสาสนไปถึงพระนครขอเปนพระราชไมตรีด้วยเรา แลให้สัญญาอาณัติว่า ให้ยกทัพหลวงมา แลจะช่วยกันรบเอาเมืองหงษาวดี แล้วพระยาตองอูก็มิได้อยู่ท่าทัพหลวง แลยกทัพมาปล้นเอาเมืองหงษาวดีเอง อนึ่ง ครั้นรู้ว่า เรายกมายังเมืองหงษาวดี พระยาตองอูก็มิได้ตกแต่งทูตานุทูตมาสำหรับการพระราชไมตรี แลพระยาตองอูหนีไปเมืองตองอูนั้น เห็นว่า พระยาตองอูมิได้ครองโดยสัตยานุสัตย์ซึ่งเปนพระราชไมตรีด้วยเรานั้น ควรเราจะยกทัพหลวงไปหาพระยาตองอูถึงเมืองตองอู ให้รู้การซึ่งพระยาตองอูจะเปนไมตรีด้วยเราฤๅ ๆ พระยาตองอูมิได้เปนไมตรีด้วยเรา พระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ก็ตรัศให้พระจันทบุรีแลขุนเพ็ชรภักดีแลขุนหมื่นทั้งหลายอยู่รั้งเมืองหงษาวดี แล้วก็ยกทัพหลวงเสด็จไปจากเมืองหงษาวดี ยกไปโดยทางเมืองตองอู.