หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๑ (๒๔๕๕) b.pdf/281

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๒๒

เชียงราย เชียงแสน ชาวเมืองทั้งสองเมืองนั้นก็สมัคด้วยพระรามเดโช เอาพระรามเดโชเปนเจ้าเมือง ก็มิได้มาออกแก่พระเจ้าเชียงใหม่ ส่วนท้าวพระยาหัวเมืองอันขึ้นแก่พระเจ้าเชียงใหม่ทั้งปวงก็มิได้มั่วมูลสมัคสมานด้วยพระเจ้าเชียงใหม่ ก็มาสมัคสมานด้วยพระรามเดโช ๆ ได้กำลังรี้พลมาก ก็คิดจะรบเอาเมืองเชียงใหม่ จึงพระเจ้าเชียงใหม่จะยกพลไปโดยเสด็จมิได้ แลแต่งพระทุลองอันเปนราชบุตร แลท้าวพระยาช้างม้ารี้พล ขึ้นไปตามทัพหลวงถึงเมืองตองอู.

 ฝ่ายเจ้าเมืองแสนหวีถึงแก่กาลพิราไลย หาผู้จะครองเมืองมิได้ จึงเสนาบดีแต่งเครื่องราชบรรณาการไปทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวณเมืองตองอู กราบทูลขอเจ้าฟ้าแสนหวีซึ่งมาเปนข้าเฝ้า ขณะนั้น ตรัศใช้พระยาศรีไปช่วยกันเมืองเมาะลำเลิ่งนั้นคืนไปเปนเจ้าเมืองแสนหวี.

 ในขณะนั้น ทัพหลวงตั้งอยู่ล้อมเมืองตองอูถึง ๓ เดือน แลแต่งให้ไปลาดทุกตำบลไซ้ มิได้เสบียงอันจะมาเลี้ยงไพร่พลทั้งปวง ในทัพหลวงนั้นเข้าแพงเปนทนานละตำลึง อนึ่ง ก็จวนเทศกาลฟ้าฝน พระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ก็ยกทัพหลวงจากเมืองตองอูมาโดยทางกลอกหม้อ ครั้นทัพหลวงเสด็จถึงตำบลคับแค สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงอัญเชิญพระบาทสมเด็จเอกาทศรฐอิศวรบรมนารถบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวยังพลับพลาไชย ก็มีพระราชโองการดำริห์ด้วยกันว่า แผ่นดินเมืองเชียงใหม่เปนจลาจล เพื่อพระรามเดโช แลพระยาน่าน พระยาฝาง แลท้าวพระยาชาวเมืองใหญ่น้อยทั้งปวงอันขึ้นแก่พระเจ้าเชียงใหม่นั้น ชวนกันคิดร้ายแลจะรบพระ