หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๑ (๒๔๕๕) b.pdf/289

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๓๐

เชียงใหม่ออกมารับเสด็จในเมืองลำพูน จะเอาท้าวพระยาหัวเมืองใหญ่น้อยทั้งปวงมอบแก่พระเจ้าเชียงใหม่ให้สมัคสมานด้วยกัน ขณะนั้น พระเจ้าเชียงใหม่รู้ข่าว ก็แต่งท้าวพระยาแสนเมืองให้ออกมาปลูกพระตำหนักรับทัพหลวง แล้วก็แต่งตำหนักที่พระเจ้าเชียงใหม่จะเสด็จออกมาอยู่เองนั้น.

 ถึงณวัน ๑๑ ฯ  ค่ำ พระบาทสมเด็จเอกาทศรฐอิศวรบรมนารถบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวก็ยกทัพหลวงเสด็จจากเมืองเถิน แลพระยาหลวงเมืองน่าน พระยาแสนหลวงพิงไชย พระยาฝาง แลท้าวพระยาหัวเมืองใหญ่น้อยทั้งปวง แลพระไชยาธิป ลูกพระเจ้าเชียงใหม่ ก็ไปโดยเสด็จ จึงยกทัพหลวงเข้าไปตั้งเมืองลำพูน ในขณะนั้น ช้างม้ารี้พลฝ่ายท้าวพระยาลาวทั้งปวงพร้อมมูลในทัพหลวง แลช้างม้ารี้พลมากนัก พระเจ้าเชียงใหม่จะออกมารับทัพหลวงไซ้ ก็คิดสงไสยเกรงขาม แลมิได้ออกมารับเสด็จในเมืองลำพูนนั้น ส่วนพระรามเดโช ครั้นมีพระราชกำหนดขึ้นไปหา ก็ยกลงมาจากเมืองฝาง จะมายังทัพหลวงในเมืองลำพูน ก็เอาช้างม้ารี้พลเดินกรายเมืองเชียงใหม่มา พระเจ้าเชียงใหม่ก็แต่งทัพม้าไทยใหญ่ออกไปซุ่มไว้ซึ่งทางพระรามเดโชจะยกมานั้น ครั้นเช้ามืด ชาวม้าไทยใหญ่ก็ยกเข้าตีทัพพระรามเดโช พระรามเดโชมิทันรู้ตัวก็แตกฉาน พระรามเดโชจะลงมายังหลวงมิได้ คืนไปเมืองฝาง พระบาทสมเด็จเอกาทศรฐอิศวรบรมนารถบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวก็ตรัศรู้การซึ่งพระเจ้าเชียงใหม่คิดสงไสยแลมิได้ลงมายังทัพหลวงนั้น จึงมีพระราชโองการศตรัศให้หาท้าวพระยาหัวเมืองมุขมนตรีทั้งหลายพิพากษาว่า ซึ่งทรงพระมหากรุณาให้เรายก