หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๑ (๒๔๕๕) b.pdf/298

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๓๙

สั่งให้ไปแต่งพระตำหนักในริมฝั่งมหาสมุทตำบลโตนดหลวง ก็เสด็จลงพระสุพรรณวิมานมหานาวาอันเปนพิไชยพาหนะสำหรับประดับพลากรโดยขนัด เรือท้าวพระยาเสนาบดีมนตรีพิริยโยธามาตย์ทั้งหลายแห่ห้อมล้อมดาษดา ดูมหิมาด้วยเครื่องสรรพายุทธ พระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ก็เสด็จโดยชลมารคมหาสมุทมายังพระตำหนักในตำบลโตนดหลวง แลทอดอยู่แรมทัพในมหาสมุทสองคืน จึงเสด็จถึงพระตำหนักโตนดหลวงนั้น แลเสด็จออกไปประพาศในกลางมหาสมุทในตำบลโตนดหลวงนั้นเล่า อยู่ ๑๒ วันจึงเสด็จจากตำบลโตนดหลวง เสด็จโดยสถลมารคเข้ามายังเมืองเพ็ชรบุรี.

 ลุศักราช ๙๕๔ ปีมโรง จัตวาศก เดือน ๑๒ พระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ก็มีพระราชโองการตรัศให้บำรุงช้างม้ารี้พลทั้งปวงไว้สรรพ จะยกทัพหลวงเสด็จไปเอาเมืองตองอู จึงมีข่าวมาว่า พระยาอังวะยกมาเอาเมืองหน่าย แลได้เมืองหน่ายแล้ว แลพระยาอังวะจะยกไปเอาเมืองแสนหวีเล่า พระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ก็มีพระราชโองการตรัศว่า เมืองหน่ายแลเมืองแสนหวีไซ้ได้เปนข้าขอบขัณฑสิมาฝ่ายกรุงพระนครศรีอยุทธยาแล้ว แลซึ่งพระยาอังวะมาเอาเมืองหน่ายแลเมืองแสนหวีดังนี้ ควรเราจะยกทัพหลวงไปเอาเมืองอังวะ จึงมีพระราชกำหนดแก่ท้าวพระยาสามนตราชเสนาบดีมนตรีมุขทั้งปวงให้ตรวจเครื่องสรรพาวุธช้างม้ารี้พลทั้งปวงสรรพ แลจะยกทัพหลวงเสด็จไปเอาเมืองอังวะ ครั้นถึงมิคสิรมาศ พระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ก็มีพระราชโองการตรัศให้แต่งพระตำหนักในตำบล