หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๖

กระษัตริย์พระองค์ใดมิได้กระทำตามคำเราสาบาลไว้ อย่าให้กระษัตริย์พระองค์นั้นคงอยู่ในเสวตรฉัตร ขณะเมื่อแผ่นดินพระนครศรีอยุทธยาเปนทุรยศปรากฎไปถึงกรุงหงษาวดี สมเด็จพระเจ้าหงษาวดีแจ้งประพฤดิเหตุไปว่า สมเด็จพระไชยราชาธิราชเจ้าแผ่นดินพระนครศรีอยุทธยาสวรรคตแล้ว เสนาบดียกพระแก้วฟ้าราชกุมารพระชนม์ ๑๑ ขวบขึ้นครองราชสมบัติ แม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์มารดาพระแก้วฟ้ากระทำทุราจารสามัคคีรสด้วยขุนชินราช ให้ฆ่าพระแก้วฟ้าเสีย ยกขุนชินราชขึ้นผ่านพิภพกรุงเทพทวาราวดีศรีอยุทธยา เสนาพฤฒามาตย์มีความพิโรธเคืองแค้น คิดกันฆ่าขุนชินราชแลแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์เสีย แผ่นดินเปนจลาจล สมเด็จพระเจ้าหงษาวดีทรงดำริห์ว่า ถ้าพระนครศรีอยุทธยาเปนดังนี้จริง เห็นว่า หัวเมืองขอบขัณฑเสมาแลเสนาพฤฒามาตย์ทั้งปวงจะกระด้างกระเดื่องมิปรกติ ถ้ายกกองทัพรุดไปโจมตีเอา เห็นจะได้พระนครศรีอยุทธยาโดยง่าย ทรงพระดำริห์แล้ว ก็ตรัศให้จัดพลทหารราบ ๓ หมื่น ช้างเครื่อง ๓ ร้อย ม้า ๒ พัน เสร็จ สมเด็จพระเจ้าหงษาวดีก็เสด็จยกทัพรุดรีบมาโดยทางด่านพระเจดีย์ ๓ องค์ ตีเมืองกาญจนบุรี จับได้กรมการ ถามให้การว่า พระนครเปนจลาจลจริง แต่บัดนี้ พระเทียรราชาได้เสวยราชสมบัติ เสนาพฤฒามาตย์แลหัวเมืองทั้งปวงเปนปรกติพร้อมมูลอยู่แล้ว สมเด็จพระเจ้าหงษาวดีตรัศว่า ได้ล่วงเกินมาถึงนี่แล้วจะกลับเสียนั้น ดูไม่มีเกียรติยศเลย จำจะเข้าไปเหยียบชานเมืองพอเห็นพระนครแล้วจะกลับ ประการหนึ่ง จะได้ดูมือทหารกรุงศรีอยุทธยา ผู้ใดจะออกมารับทัพเราบ้าง ตรัศแล้วก็ยกไปตีเอาเมืองสุพรรณบุรี แล้วเดินตัดทุ่งเข้าท้ายปากโมกข์ ข้ามพล